The KOMMON
TK Park website
No Result
View All Result
The KOMMON
TK Park website
No Result
View All Result
The KOMMON
No Result
View All Result
 
UNCOMMON
Common EXPERIENCE
ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Common EXPERIENCE
  • Common EXPERIENCE

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา

เรื่อง: พิสิฐ์พงษ์ หมื่นประเสริฐดี
690 views

 7 mins

4 MINS

November 3, 2022

          “ดอกอัญชัน ดอกไม้วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์ ใครจะรู้ว่าต้นไม้เล็กๆ จะสามารถสร้างการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ได้จากเมล็ดเล็กๆ สู่อาหารและการทดลองไม่รู้จบ”

          เรื่องของดอกไม้มหัศจรรย์ “ดอกอัญชัน” เป็นหนึ่งในบรรดาดอกไม้ที่มีคุณค่าในแง่วิทยาศาสตร์ ศิลปะ อาหาร และสมุนไพร เกิดจาก STEAM Kids House หรือบ้านแห่งการเรียนรู้กิจกรรม STEAM ของน้องแก้มหอมและน้องชะเอมกับคุณพ่อนักวิทยาศาสตร์ นักกิจกรรมที่มีใจรักวิทยาศาสตร์และมีความเข้าใจเด็กๆ ร่วมกันลงมือทำกิจกรรมดีๆ

          จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้เรื่องดอกอัญชันครั้งแรก เกิดจากบ้านของคุณตาที่ปลูกต้นอัญชันไว้เต็มแนวรั้ว แผ่ดอกซ้อนสีม่วงเข้มสวยงามละลานตา เมื่อเวลาผ่านไปจนดอกอัญชันร่วงก็จะเกิดเป็นฝักแก่ให้เด็กๆ ได้เก็บกันอย่างสนุกสนาน และเด็กๆ ก็ผุดไอเดียที่อยากจะแบ่งปันดอกไม้มหัศจรรย์นี้ให้แก่เพื่อนๆ และคนที่รักของทั้งสองคน

          เด็กๆ เริ่มเก็บสะสมฝักอัญชันแก่จนเป็นกอบเป็นกำ ก่อนจะเริ่มลงมือเพาะเมล็ดด้วยตนเอง ด้วยแรงสนับสนุนของคุณพ่อและคุณแม่ในการทำกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อตนเองและสังคม ด้วยคุณพ่อเองเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “กิจกรรมเด็ก STEAM Kids” ด้วย

          คำว่า STEAM เป็นคำย่อมาจาก S-Science / T-Technology / E-Engineering / A-Art / M-Mathematics ซึ่งที่ผ่านมา คุณพ่อของน้องแก้มหอมและชะเอมใช้พื้นที่ในในเขตรั้วบ้านตัวเองเพื่อการสร้างกิจกรรมและเปิดสอนเด็กๆ เกี่ยวกับการทดลองวิทยาศาสตร์กลุ่มเล็กๆ ในช่วงของการระบาดของโควิด-19 ที่เด็กๆ ไปไหนกันไม่ได้ ซึ่งในครั้งนี้ ได้จัดพื้นที่และกิจกรรมให้สองมือน้อยๆ ของเด็ก 5 ขวบ (น้องชะเอม) และเด็ก 7 ขวบ (พี่แก้มหอม) ให้เขาสามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจผ่านระยะเวลาหลายเดือนเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมพิเศษนี้ ผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่ไล่เรียงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบได้ดังนี้

           (1) เด็กๆ เริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด ด้วยการเลือกเมล็ดที่แข็งแรงจากฝักที่สมบูรณ์ ไม่ลีบ มาลงถาดเพาะต้นกล้า ซึ่งเด็กๆ เลือกใช้ดินปลูกจากดินถุงที่ซื้อมาจากร้านเกษตร เพราะเป็นดินที่มีวัสดุทางการเกษตรที่อุ้มน้ำได้ดี แม้ไม่มีธาตุอาหารที่เต็มสมบูรณ์ก็ไม่เป็นไร เพราะเมล็ดอัญชันน้อยอาศัยพื้นที่นี้เพียงได้รับความชุ่มชื้นรองรับ เพื่องอกขึ้นมาเป็นต้นกล้าที่มีใบเลี้ยงคอยเป็นแหล่งอาหารหลักในช่วงขวบเดือนแรก

          การเพาะต้นกล้าอัญชันจากเมล็ดทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีการปลูกพืชด้วยเมล็ดที่แตกต่างกันไปแต่ละชนิด พืชบางชนิดต้องการให้โรยเมล็ดบนผิวดินเพื่อรับแสงในการกระตุ้นให้รากงอกออกจากเมล็ดและป้องกันการเน่า เช่น พริก คะน้า ส่วนพืชบางชนิดต้องการให้กดฝังเมล็ดลงลึกไปในดินเพื่ออาศัยความชื้นที่มากกว่าในกิจกรรมการงอกภายใน อัญชันเป็นแบบที่สอง เด็กๆ จะต้องใช้ไม้ขนาดที่พอเหมาะ เจาะดินด้วยความลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ก่อนจะหย่อนเมล็ดอัญชันและกลบดินตามลงไปเบาๆ ไม่นานเมล็ดอัญชันจะงอกรากลงสู่ใต้ดิน และส่งใบเลี้ยงต้านแรงโน้มถ่วงขึ้นมาสู่อากาศด้านบนเป็นต้นอ่อนน้อยๆ น่ารัก สวยงาม

           (2) เมื่อต้นกล้าจากถาดเพาะเมล็ดพันธุ์มีอายุได้ 2 สัปดาห์ หรือต้นกล้าสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ก็ถึงเวลาย้ายต้นกล้าลงสู่กระถางเพาะต้นไม้ 1 กระถางต่อ 1 ต้น โดยเมล็ดพันธุ์ที่เด็กๆ ได้เริ่มต้นหย่อนลงดินครั้งแรกจำนวน 200 เมล็ดเกิดเป็นต้นอ่อน ชูใบเลี้ยงคู่อวบอิ่ม และมีใบเลี้ยงจริง 2-4 ใบ ซึ่งระยะเวลาการงอกของอัญชันแต่ละเมล็ดแตกต่างกันออกไป เมล็ดส่วนใหญ่ 70% สามารถงอกเป็นต้นอ่อนได้ภายใน 3-5 วัน 10% ของเมล็ดจะงอกภายใน 1 เดือน และอีก 10% จะงอกตามออกมาอีกภายใน 3 เดือน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของแต่ละเมล็ด และสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นนั่นเอง

           “เอ้า….แล้วอีก 10% ที่เหลือล่ะ หายไปไหน” กิจกรรมครั้งนี้เด็กๆ ได้เห็นด้วยตนเองว่า เมล็ดบางส่วนจะไม่สามารถงอกเป็นต้นได้ ด้วยความผิดปกติภายในเมล็ด มดแมลงกัดกิน หรือการเน่าเสียเองตามวิสัยของธรรมชาติที่คัดเลือกเมล็ดที่แข็งแรงให้ได้เติบโตในโลกต่อไป

           (3) เมื่อต้นกล้าโตและพร้อมแล้ว คุณพ่อจึงนำทีมเด็กๆ ไปตัดไม้ไผ่เพื่อใช้ทำเป็นเสาหลักปักในกระถาง ให้ต้นอัญชันน้อยๆ ใช้ยอดอ่อนที่เลื้อยเกี่ยวพันขึ้นสู่ที่สูงได้ด้วยตัวเอง ไม้ไผ่ที่เลือกมาใช้เป็นหลักหรือค้างให้ไม้เลื้อยเตี้ยๆ ในกระถางต้นกล้านี้ เราเลือกจากไม้ไผ่สดต้นขนาดเล็กหรือขนาดกลาง เนื่องจากเนื้อไม้ไผ่ไม่แข็งเกินไป สามารถผ่าและตัดได้ง่ายกว่าลำไผ่ที่แก่และหนา แต่แม้กระนั้น การผ่าและเหลาไม้ไผ่ก็ก่อให้เกิดรอยบาดจากเสี้ยนไม้ไผ่และคมมีดพร้า ให้เด็กๆ ได้เห็นและเข้าใจงานยากที่คุณพ่อทำให้ดู ส่วนเด็กๆ ช่วยกันวัดขนาดและจัดเก็บไม้ไผ่ที่ตัดเหลาเสร็จแล้วกว่า 100 ท่อน ไว้ใช้ในขั้นตอนถัดไป

           (4) ขั้นตอนต่อมาคือ การย้ายต้นกล้าจากถาดเพาะสู่กระถางต้นกล้าเดี่ยวๆ ซึ่งกระบวนการนี้น้องแก้มหอมและชะเอมใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการทยอยย้ายต้นกล้าวันละ 10-20 ต้น หรือใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีต่อวัน ตามแต่จะมีเวลาว่างหลังจากการทำการบ้านและกิจกรรมอื่นในบ้าน ซึ่งเด็กๆ รอคอยจะทำกิจกรรมนี้ทุกวัน เพราะเป้าหมายที่วางไว้คือการมอบให้แก่เพื่อนๆ ที่โรงเรียน

          ในขั้นตอนนี้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงการเตรียมดินปลูกในแบบฉบับง่ายๆ ของเราเอง ดินสูตรของเราประกอบไปด้วย ดินปลูกสีดำ 1 ส่วน: ดินลูกรังสีน้ำตาลจากในสวน 1 ส่วน: หญ้าแห้งผสมเศษใบไม้ 1 ส่วน: มะพร้าวสับ 1 ส่วน โดยส่วนประกอบทั้ง 4 อย่างมีเพียงดินปลูกและมะพร้าวสับที่เราซื้อมาด้วยงบประมาณรวม 80 บาท นอกจากนั้นก็ใช้วัสดุเศษเหลือและดินภายในสวนบ้านของเราเองแบบไม่ต้องจ่ายเงิน จนสามารถปลูกต้นกล้าอัญชันได้กว่า 100 ต้น ซึ่งดินปลูกที่เตรียมขึ้นเองนี้มีอินทรียวัตถุเพียงพอ และมีธาตุอาหารจำเป็นพื้นฐานได้แก่ ธาตุอาหารหลัก N, P และ K จากดินที่มีเศษใบไม้และเศษหญ้าที่ค่อยๆ เน่าเปื่อย ค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างเพียงพอสำหรับต้นกล้าเล็กๆ ของเราในช่วงระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ไป ดินลูกรังที่มีส่วนของดินเหนียวมีส่วนของธาตุอาหารรองอื่นๆ ทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี เหล็ก ซัลเฟอร์ โบรอน ในปริมาณที่พอเหมาะและหลากหลายสามารถช่วยเสริมให้ต้นกล้าสมบูรณ์แข็งแรง ส่วนกาบมะพร้าวเป็นอีกส่วนประกอบสำคัญหนึ่งที่ช่วยในการสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ดินตลอดระยะเวลาการปลูก แม้ในวันที่งดการรดน้ำเพราะครอบครัวต้องเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด 2-3 วัน

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : Kru’Golf Chem Stem Kids

           (5) ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ การเตรียมขวดน้ำพลาสติกหรือแก้วพลาสติกใช้แล้วในการทำเป็นกระถางต้นไม้ ทั้งแก้ว Starbuck แก้วกาแฟ 7-11 ขวดนม ขวดน้ำดื่ม ขวดน้ำมัน ซึ่งการนำขวดพลาสติกเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ เป็นกระบวนการหลักของการ Reuse และ Recycle ของกิจกรรมที่เด็กๆ คิดขึ้นตั้งแต่แรก ให้พ่อทำหน้าที่ตัดขวด เจาะรูระบายน้ำที่ผิวขวดให้สูงกว่าก้นขวดสัก 1 เซนติเมตรเพื่อสามารถเก็บน้ำไว้ที่ก้นขวดได้ในระยะเวลาหนึ่งโดยที่รากไม่เน่า

          ส่วนเด็กๆ มีหน้าที่สำคัญ คือการใช้สองมือย้ายต้นกล้าจากถาดเพาะด้วยความทะนุถนอมเบามือ ลงสู่กระถางขวด Recycle เพื่อเตรียมนำไปแจกจ่ายให้แก่เด็กๆ คนอื่นต่อไป ซึ่งกิจกรรมที่แก้มหอมและชะเอมได้ทำขึ้นถือเป็นการ Revive หรือการชุบชีวิตให้แก่ธรรมชาติด้วยการกระจายพันธุ์ไม้ที่เป็นประโยชน์นี้ สู่แต่ละบ้านของเพื่อนๆ ให้ได้นำไปปลูกเพื่อใช้สอย กิน หรือทำการทดลองแบบที่แก้มหอมและชะเอมได้ทำและเห็นคุณค่าของมันมาตลอด

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : Kru’Golf Chem Stem Kids

           (6) วันที่ 100 ของการทำกิจกรรมนี้เป็นวันสิ้นสุดของการทุ่มเทของเด็กๆ (ที่ยังไม่จบสิ้น) เพราะเป็นวันที่แก้มหอมและชะเอมได้นำต้นอัญชันทั้ง 100 ต้นไปที่โรงเรียนของตัวเอง คือโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ฝ่ายประถม) เพื่อมอบให้แก่เพื่อนๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมส่วนหนึ่งของโรงเรียน คือ “Low Carbon School” ซึ่งคุณพ่อและเด็กๆ ได้เรียนปรึกษากับผู้อำนวยการโรงเรียนถึงความตั้งใจและเรื่องราวกิจกรรมนี้ก่อนแล้วหลายสัปดาห์

          ผู้อำนวยการโรงเรียน – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เครือศรี วิเศษสุวรรณภูมิ ยินดีและภูมิใจที่นักเรียนสองคนนี้มีความตั้งใจและลงมือปฏิบัติกิจกรรมที่มีคุณค่านี้ด้วยแรงกายแรงใจจนถึงวันส่งมอบคุณค่าให้แก่โรงเรียน โดยท่านผู้อำนวยการได้ให้เกียรติและสร้างความสุขสมหวังแก่พี่แก้มหอมน้องชะเอมด้วยการให้ทั้งสองคนเป็นผู้มอบต้นกล้าคนละ 1 ต้น รวม 100 ต้น แก่เพื่อนๆ ในฝั่งประถมและอนุบาลด้วยตนเอง พร้อมถือไมโครโฟนบอกเล่าประสบการณ์ที่ได้รับที่หน้าเสาธงตอนเข้าแถวตอนเช้า ซึ่งเงื่อนไขของผู้รับมอบต้นกล้าอัญชันดอกไม้มหัศจรรย์นี้คือ ให้เพื่อนๆ ที่ต้องการต้นกล้านำขวดพลาสติกใช้แล้วเอามาแลก “1 ต้น แลก 1 ขวด” เพื่อนำขวดน้ำพลาสติกนี้ไปใช้ในการทำกระถางกล้าไม้ในครั้งต่อไป หรือเข้าสู่โรงงานรีไซเคิลต่อไป

           “การให้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพียงอย่างเดียว แก้มหอมและชะเอมได้ใช้เวลา แรงกาย และความทุ่มเทในการสร้างสิ่งที่มีค่าให้แก่คนที่สนใจในเรื่องเดียวกันอีก 100 คน เกิดการ Reuse Recycle และ Revive ได้ง่ายๆ และหากผู้รับต้นกล้ามหัศจรรย์นี้ไปแล้วได้เข้าใจถึงประโยชน์และคุณค่าของต้นอัญชันหรือกิจกรรมครั้งนี้ ก็จะเกิดการส่งต่อคุณค่าและแรงบันดาลใจนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด”

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ฝ่ายประถมศึกษา)

          การเรียนรู้ของแก้มหอมและชะเอมในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างยาวนานในช่วงเวลาร่วม 3 เดือน แม้จะไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน กับคำถามที่ได้คำตอบมากมายจากการลงมือปฏิบัติทำกิจกรรมด้วยตนเอง เช่น

  • เตรียมวัสดุปลูกทำยังไงบ้าง ทำไมต้องมีดิน ทำไมต้องมีเศษหญ้า ทำไมต้องมีกาบมะพร้าว
  • เสียบไม้ไผ่ทำหลักให้ต้นกล้าลึกๆ แน่นๆ ยังไงไม่ให้เสี้ยนตำมือ!!
  • เลือกต้นกล้า กับกระถาง กับไม้เสียบทำเสาหลักยังไงดี?
  • ถ้าขวดพลาสติกหมดใช้อะไรแทนดี ถุงดำได้ไหม?
  • วางแผนลำดับขั้นตอนต่างๆ ยังไงดี อะไรก่อน อะไรหลัง: ขวด – ดิน – ต้นกล้า – ไม้ไผ่?
  • เราลัดขั้นตอนไหนได้บ้างนะ อิอิ?
  • ทำแล้วเหนื่อย จะพักดี หรือทำต่อดี เป้าหมายวันละ 20 ต้นพอมั้ย หรือ ค่อยเป็นค่อยไป?

           “สิ่งหนึ่งที่เด็กๆ ได้จากกิจกรรมนี้ คือพวกเขาได้ฝึกทำ ได้ลงมือทำ ได้เหนื่อย ได้บริหารจัดการเวลา และเรียนรู้งานบางอย่างตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความเข้าใจถ่องแท้ (หรืออาจจะเท่าที่เขาเข้าใจในวันนี้) เขาจะต้องเป็นผู้ตามเป็นผู้ปฏิบัติที่ดีให้ได้ก่อน เมื่อเก่ง เมื่อเข้าใจ อนาคตก็จะสามารถเป็นผู้นำหรือผู้ออกแบบกิจกรรมได้ด้วยตนเอง จากนั้นเขาก็จะฝึก “ทักษะสื่อสาร” ต่อได้ไม่ยาก เมื่อเขาพร้อม เมื่อเขารู้จริง เมื่อเขาทำมากับมือ เขาก็จะนำเสนอสื่อสารได้ดีเอง พ่อเชื่ออย่างนั้น”

          ในฐานะของคุณพ่อลูกสองที่เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ เป็นทั้งผู้นำแห่งแรงบันดาลใจด้าน STEAM ของลูกสาวและเด็กๆ ที่มาเรียนกิจกรรม STEAM Kids ที่บ้าน ขอฝากเกร็ดกิจกรรมสนุกๆ แบบฉบับของ STEAM Kids ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากดอกอัญชันที่ปลูกไว้ริมรั้ว เช่น

           (1) “น้ำอัญชันมะนาวสีรุ้ง แบบนี้ จะดื่มได้จริงๆ มั้ยน้า” น้ำอัญชันมีหลายสี ขึ้นอยู่กับสภาพกรด-ด่างของสารละลาย

               – กรดแก่ ให้สีแดง (เห็นได้ยาก เพราะต้องกรดแก่จริงๆ) / กรดอ่อน ให้สีแดงม่วง / กลาง ให้สีน้ำเงินม่วง / ด่างอ่อน ให้สีน้ำเงิน / ด่างแก่ ให้สีเขียว (เห็นได้ยาก ต้องใช้เบสแก่จริงๆ ซึ่งไม่ค่อยมีในอาหารทั่วไป)

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : Kru’Golf Chem Stem Kids

            (2) “เรามาประดิษฐ์การ์ดล่องหนกันเถอะ” ขั้นตอน ดังนี้

               – ใช้ Cotton Bud จุ่มน้ำด่าง (เบกกิ้งโซดา) และน้ำกรด (มะนาว) แล้ววาดข้อความบนการ์ด ก่อนจะปล่อยให้แห้งจนมองไม่เห็นรอยน้ำยาดังกล่าว กลายเป็นการ์ดล่องหน

               – เมื่อเรามอบการ์ดให้กับใคร ก็จะใช้น้ำดอกอัญชันเข้มข้นทาลงไปบนการ์ด ก็จะสามารถแสดงข้อความหรือรูปภาพที่ซ่อนอยู่เอาไว้ได้ ปีนี้ “การ์ดวันแม่วันพ่อแบบล่องหน” ต้องเข้าแล้วล่ะ

          นอกจากนี้ดอกอัญชันยังสามารถนำมาใช้เป็นอาหารทั้งเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำมาชุบแป้งทอดก็อร่อยแบบเด็กๆ ได้ง่ายๆ หรือจะนำมาบดแล้วทาคิ้วทำยาสระผมบำรุงเส้นขนตามสูตรโบราณก็ได้ หรือจะคั้นน้ำทำน้ำมะนาวอัญชันสำหรับดื่มก็อร่อยชื่นใจในวันอากาศร้อน

          แต่ใครจะรู้บ้างว่า สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่อยู่ในดอกอัญชัน ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดได้เป็นอย่างดี แล้วยังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตด้วย ยืนยันจากหลายผลงานวิจัย เช่นงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษและตามรายงานในข่าวที่ว่าผู้ป่วยชายที่มีภาวะ Long COVID บางคนจะมีปัญหาขนาดของน้องชายขณะแข็งตัวเล็กลงเนื่องจากจากระบบไหลเวียนโลหิตที่ยังฟื้นตัวไม่เหมือนเดิม สารแอนโทรไซยานินในดอกอัญชันสามารถช่วยได้นะครับ แต่จะมากหรือน้อยก็ต้องรอการศึกษาเชิงลึกต่อไป (อิอิ) แต่สงสัยงานนี้มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ได้อ่านบทความนี้รีบหาเมนูน้ำอัญชันมะนาวมาดื่มดับร้อนแก้กระหายกันถ้วนหน้าแน่ๆ เลย


ที่มา

บทความ “The effect of anthocyanin supplementation in modulating platelet function in sedentary population: a randomised, double-blind, placebo-controlled, cross-over trial” จาก cambridge.org (Online)

Tags: Content Creatorเรียนรู้สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ความรู้

เรื่องโดย

689
VIEWS
โครงการ Content Creator

          “ดอกอัญชัน ดอกไม้วิทยาศาสตร์มหัศจรรย์ ใครจะรู้ว่าต้นไม้เล็กๆ จะสามารถสร้างการเรียนรู้ที่ยิ่งใหญ่ได้จากเมล็ดเล็กๆ สู่อาหารและการทดลองไม่รู้จบ”

          เรื่องของดอกไม้มหัศจรรย์ “ดอกอัญชัน” เป็นหนึ่งในบรรดาดอกไม้ที่มีคุณค่าในแง่วิทยาศาสตร์ ศิลปะ อาหาร และสมุนไพร เกิดจาก STEAM Kids House หรือบ้านแห่งการเรียนรู้กิจกรรม STEAM ของน้องแก้มหอมและน้องชะเอมกับคุณพ่อนักวิทยาศาสตร์ นักกิจกรรมที่มีใจรักวิทยาศาสตร์และมีความเข้าใจเด็กๆ ร่วมกันลงมือทำกิจกรรมดีๆ

          จุดเริ่มต้นของการเรียนรู้เรื่องดอกอัญชันครั้งแรก เกิดจากบ้านของคุณตาที่ปลูกต้นอัญชันไว้เต็มแนวรั้ว แผ่ดอกซ้อนสีม่วงเข้มสวยงามละลานตา เมื่อเวลาผ่านไปจนดอกอัญชันร่วงก็จะเกิดเป็นฝักแก่ให้เด็กๆ ได้เก็บกันอย่างสนุกสนาน และเด็กๆ ก็ผุดไอเดียที่อยากจะแบ่งปันดอกไม้มหัศจรรย์นี้ให้แก่เพื่อนๆ และคนที่รักของทั้งสองคน

          เด็กๆ เริ่มเก็บสะสมฝักอัญชันแก่จนเป็นกอบเป็นกำ ก่อนจะเริ่มลงมือเพาะเมล็ดด้วยตนเอง ด้วยแรงสนับสนุนของคุณพ่อและคุณแม่ในการทำกิจกรรมที่มีคุณค่าต่อตนเองและสังคม ด้วยคุณพ่อเองเป็นเจ้าของเพจเฟซบุ๊ก “กิจกรรมเด็ก STEAM Kids” ด้วย

          คำว่า STEAM เป็นคำย่อมาจาก S-Science / T-Technology / E-Engineering / A-Art / M-Mathematics ซึ่งที่ผ่านมา คุณพ่อของน้องแก้มหอมและชะเอมใช้พื้นที่ในในเขตรั้วบ้านตัวเองเพื่อการสร้างกิจกรรมและเปิดสอนเด็กๆ เกี่ยวกับการทดลองวิทยาศาสตร์กลุ่มเล็กๆ ในช่วงของการระบาดของโควิด-19 ที่เด็กๆ ไปไหนกันไม่ได้ ซึ่งในครั้งนี้ ได้จัดพื้นที่และกิจกรรมให้สองมือน้อยๆ ของเด็ก 5 ขวบ (น้องชะเอม) และเด็ก 7 ขวบ (พี่แก้มหอม) ให้เขาสามารถทุ่มเทแรงกายแรงใจผ่านระยะเวลาหลายเดือนเพื่อสร้างสรรค์กิจกรรมพิเศษนี้ ผ่านขั้นตอนต่างๆ ที่ไล่เรียงตั้งแต่เริ่มต้นจนจบได้ดังนี้

           (1) เด็กๆ เริ่มต้นจากการเพาะเมล็ด ด้วยการเลือกเมล็ดที่แข็งแรงจากฝักที่สมบูรณ์ ไม่ลีบ มาลงถาดเพาะต้นกล้า ซึ่งเด็กๆ เลือกใช้ดินปลูกจากดินถุงที่ซื้อมาจากร้านเกษตร เพราะเป็นดินที่มีวัสดุทางการเกษตรที่อุ้มน้ำได้ดี แม้ไม่มีธาตุอาหารที่เต็มสมบูรณ์ก็ไม่เป็นไร เพราะเมล็ดอัญชันน้อยอาศัยพื้นที่นี้เพียงได้รับความชุ่มชื้นรองรับ เพื่องอกขึ้นมาเป็นต้นกล้าที่มีใบเลี้ยงคอยเป็นแหล่งอาหารหลักในช่วงขวบเดือนแรก

          การเพาะต้นกล้าอัญชันจากเมล็ดทำให้เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีการปลูกพืชด้วยเมล็ดที่แตกต่างกันไปแต่ละชนิด พืชบางชนิดต้องการให้โรยเมล็ดบนผิวดินเพื่อรับแสงในการกระตุ้นให้รากงอกออกจากเมล็ดและป้องกันการเน่า เช่น พริก คะน้า ส่วนพืชบางชนิดต้องการให้กดฝังเมล็ดลงลึกไปในดินเพื่ออาศัยความชื้นที่มากกว่าในกิจกรรมการงอกภายใน อัญชันเป็นแบบที่สอง เด็กๆ จะต้องใช้ไม้ขนาดที่พอเหมาะ เจาะดินด้วยความลึกประมาณ 1 เซนติเมตร ก่อนจะหย่อนเมล็ดอัญชันและกลบดินตามลงไปเบาๆ ไม่นานเมล็ดอัญชันจะงอกรากลงสู่ใต้ดิน และส่งใบเลี้ยงต้านแรงโน้มถ่วงขึ้นมาสู่อากาศด้านบนเป็นต้นอ่อนน้อยๆ น่ารัก สวยงาม

           (2) เมื่อต้นกล้าจากถาดเพาะเมล็ดพันธุ์มีอายุได้ 2 สัปดาห์ หรือต้นกล้าสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ก็ถึงเวลาย้ายต้นกล้าลงสู่กระถางเพาะต้นไม้ 1 กระถางต่อ 1 ต้น โดยเมล็ดพันธุ์ที่เด็กๆ ได้เริ่มต้นหย่อนลงดินครั้งแรกจำนวน 200 เมล็ดเกิดเป็นต้นอ่อน ชูใบเลี้ยงคู่อวบอิ่ม และมีใบเลี้ยงจริง 2-4 ใบ ซึ่งระยะเวลาการงอกของอัญชันแต่ละเมล็ดแตกต่างกันออกไป เมล็ดส่วนใหญ่ 70% สามารถงอกเป็นต้นอ่อนได้ภายใน 3-5 วัน 10% ของเมล็ดจะงอกภายใน 1 เดือน และอีก 10% จะงอกตามออกมาอีกภายใน 3 เดือน ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของแต่ละเมล็ด และสิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นนั่นเอง

           “เอ้า….แล้วอีก 10% ที่เหลือล่ะ หายไปไหน” กิจกรรมครั้งนี้เด็กๆ ได้เห็นด้วยตนเองว่า เมล็ดบางส่วนจะไม่สามารถงอกเป็นต้นได้ ด้วยความผิดปกติภายในเมล็ด มดแมลงกัดกิน หรือการเน่าเสียเองตามวิสัยของธรรมชาติที่คัดเลือกเมล็ดที่แข็งแรงให้ได้เติบโตในโลกต่อไป

           (3) เมื่อต้นกล้าโตและพร้อมแล้ว คุณพ่อจึงนำทีมเด็กๆ ไปตัดไม้ไผ่เพื่อใช้ทำเป็นเสาหลักปักในกระถาง ให้ต้นอัญชันน้อยๆ ใช้ยอดอ่อนที่เลื้อยเกี่ยวพันขึ้นสู่ที่สูงได้ด้วยตัวเอง ไม้ไผ่ที่เลือกมาใช้เป็นหลักหรือค้างให้ไม้เลื้อยเตี้ยๆ ในกระถางต้นกล้านี้ เราเลือกจากไม้ไผ่สดต้นขนาดเล็กหรือขนาดกลาง เนื่องจากเนื้อไม้ไผ่ไม่แข็งเกินไป สามารถผ่าและตัดได้ง่ายกว่าลำไผ่ที่แก่และหนา แต่แม้กระนั้น การผ่าและเหลาไม้ไผ่ก็ก่อให้เกิดรอยบาดจากเสี้ยนไม้ไผ่และคมมีดพร้า ให้เด็กๆ ได้เห็นและเข้าใจงานยากที่คุณพ่อทำให้ดู ส่วนเด็กๆ ช่วยกันวัดขนาดและจัดเก็บไม้ไผ่ที่ตัดเหลาเสร็จแล้วกว่า 100 ท่อน ไว้ใช้ในขั้นตอนถัดไป

           (4) ขั้นตอนต่อมาคือ การย้ายต้นกล้าจากถาดเพาะสู่กระถางต้นกล้าเดี่ยวๆ ซึ่งกระบวนการนี้น้องแก้มหอมและชะเอมใช้เวลาเป็นสัปดาห์ในการทยอยย้ายต้นกล้าวันละ 10-20 ต้น หรือใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีต่อวัน ตามแต่จะมีเวลาว่างหลังจากการทำการบ้านและกิจกรรมอื่นในบ้าน ซึ่งเด็กๆ รอคอยจะทำกิจกรรมนี้ทุกวัน เพราะเป้าหมายที่วางไว้คือการมอบให้แก่เพื่อนๆ ที่โรงเรียน

          ในขั้นตอนนี้พวกเขาได้เรียนรู้ถึงการเตรียมดินปลูกในแบบฉบับง่ายๆ ของเราเอง ดินสูตรของเราประกอบไปด้วย ดินปลูกสีดำ 1 ส่วน: ดินลูกรังสีน้ำตาลจากในสวน 1 ส่วน: หญ้าแห้งผสมเศษใบไม้ 1 ส่วน: มะพร้าวสับ 1 ส่วน โดยส่วนประกอบทั้ง 4 อย่างมีเพียงดินปลูกและมะพร้าวสับที่เราซื้อมาด้วยงบประมาณรวม 80 บาท นอกจากนั้นก็ใช้วัสดุเศษเหลือและดินภายในสวนบ้านของเราเองแบบไม่ต้องจ่ายเงิน จนสามารถปลูกต้นกล้าอัญชันได้กว่า 100 ต้น ซึ่งดินปลูกที่เตรียมขึ้นเองนี้มีอินทรียวัตถุเพียงพอ และมีธาตุอาหารจำเป็นพื้นฐานได้แก่ ธาตุอาหารหลัก N, P และ K จากดินที่มีเศษใบไม้และเศษหญ้าที่ค่อยๆ เน่าเปื่อย ค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างเพียงพอสำหรับต้นกล้าเล็กๆ ของเราในช่วงระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ไป ดินลูกรังที่มีส่วนของดินเหนียวมีส่วนของธาตุอาหารรองอื่นๆ ทั้งแคลเซียม แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี เหล็ก ซัลเฟอร์ โบรอน ในปริมาณที่พอเหมาะและหลากหลายสามารถช่วยเสริมให้ต้นกล้าสมบูรณ์แข็งแรง ส่วนกาบมะพร้าวเป็นอีกส่วนประกอบสำคัญหนึ่งที่ช่วยในการสร้างความชุ่มชื้นให้แก่ดินตลอดระยะเวลาการปลูก แม้ในวันที่งดการรดน้ำเพราะครอบครัวต้องเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัด 2-3 วัน

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : Kru’Golf Chem Stem Kids

           (5) ขั้นตอนสำคัญต่อไปคือ การเตรียมขวดน้ำพลาสติกหรือแก้วพลาสติกใช้แล้วในการทำเป็นกระถางต้นไม้ ทั้งแก้ว Starbuck แก้วกาแฟ 7-11 ขวดนม ขวดน้ำดื่ม ขวดน้ำมัน ซึ่งการนำขวดพลาสติกเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ เป็นกระบวนการหลักของการ Reuse และ Recycle ของกิจกรรมที่เด็กๆ คิดขึ้นตั้งแต่แรก ให้พ่อทำหน้าที่ตัดขวด เจาะรูระบายน้ำที่ผิวขวดให้สูงกว่าก้นขวดสัก 1 เซนติเมตรเพื่อสามารถเก็บน้ำไว้ที่ก้นขวดได้ในระยะเวลาหนึ่งโดยที่รากไม่เน่า

          ส่วนเด็กๆ มีหน้าที่สำคัญ คือการใช้สองมือย้ายต้นกล้าจากถาดเพาะด้วยความทะนุถนอมเบามือ ลงสู่กระถางขวด Recycle เพื่อเตรียมนำไปแจกจ่ายให้แก่เด็กๆ คนอื่นต่อไป ซึ่งกิจกรรมที่แก้มหอมและชะเอมได้ทำขึ้นถือเป็นการ Revive หรือการชุบชีวิตให้แก่ธรรมชาติด้วยการกระจายพันธุ์ไม้ที่เป็นประโยชน์นี้ สู่แต่ละบ้านของเพื่อนๆ ให้ได้นำไปปลูกเพื่อใช้สอย กิน หรือทำการทดลองแบบที่แก้มหอมและชะเอมได้ทำและเห็นคุณค่าของมันมาตลอด

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : Kru’Golf Chem Stem Kids

           (6) วันที่ 100 ของการทำกิจกรรมนี้เป็นวันสิ้นสุดของการทุ่มเทของเด็กๆ (ที่ยังไม่จบสิ้น) เพราะเป็นวันที่แก้มหอมและชะเอมได้นำต้นอัญชันทั้ง 100 ต้นไปที่โรงเรียนของตัวเอง คือโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ฝ่ายประถม) เพื่อมอบให้แก่เพื่อนๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมส่วนหนึ่งของโรงเรียน คือ “Low Carbon School” ซึ่งคุณพ่อและเด็กๆ ได้เรียนปรึกษากับผู้อำนวยการโรงเรียนถึงความตั้งใจและเรื่องราวกิจกรรมนี้ก่อนแล้วหลายสัปดาห์

          ผู้อำนวยการโรงเรียน – ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เครือศรี วิเศษสุวรรณภูมิ ยินดีและภูมิใจที่นักเรียนสองคนนี้มีความตั้งใจและลงมือปฏิบัติกิจกรรมที่มีคุณค่านี้ด้วยแรงกายแรงใจจนถึงวันส่งมอบคุณค่าให้แก่โรงเรียน โดยท่านผู้อำนวยการได้ให้เกียรติและสร้างความสุขสมหวังแก่พี่แก้มหอมน้องชะเอมด้วยการให้ทั้งสองคนเป็นผู้มอบต้นกล้าคนละ 1 ต้น รวม 100 ต้น แก่เพื่อนๆ ในฝั่งประถมและอนุบาลด้วยตนเอง พร้อมถือไมโครโฟนบอกเล่าประสบการณ์ที่ได้รับที่หน้าเสาธงตอนเข้าแถวตอนเช้า ซึ่งเงื่อนไขของผู้รับมอบต้นกล้าอัญชันดอกไม้มหัศจรรย์นี้คือ ให้เพื่อนๆ ที่ต้องการต้นกล้านำขวดพลาสติกใช้แล้วเอามาแลก “1 ต้น แลก 1 ขวด” เพื่อนำขวดน้ำพลาสติกนี้ไปใช้ในการทำกระถางกล้าไม้ในครั้งต่อไป หรือเข้าสู่โรงงานรีไซเคิลต่อไป

           “การให้ไม่จำเป็นต้องใช้เงินเพียงอย่างเดียว แก้มหอมและชะเอมได้ใช้เวลา แรงกาย และความทุ่มเทในการสร้างสิ่งที่มีค่าให้แก่คนที่สนใจในเรื่องเดียวกันอีก 100 คน เกิดการ Reuse Recycle และ Revive ได้ง่ายๆ และหากผู้รับต้นกล้ามหัศจรรย์นี้ไปแล้วได้เข้าใจถึงประโยชน์และคุณค่าของต้นอัญชันหรือกิจกรรมครั้งนี้ ก็จะเกิดการส่งต่อคุณค่าและแรงบันดาลใจนี้ต่อไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด”

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ฝ่ายประถมศึกษา)

          การเรียนรู้ของแก้มหอมและชะเอมในครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างยาวนานในช่วงเวลาร่วม 3 เดือน แม้จะไม่ยาก แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน กับคำถามที่ได้คำตอบมากมายจากการลงมือปฏิบัติทำกิจกรรมด้วยตนเอง เช่น

  • เตรียมวัสดุปลูกทำยังไงบ้าง ทำไมต้องมีดิน ทำไมต้องมีเศษหญ้า ทำไมต้องมีกาบมะพร้าว
  • เสียบไม้ไผ่ทำหลักให้ต้นกล้าลึกๆ แน่นๆ ยังไงไม่ให้เสี้ยนตำมือ!!
  • เลือกต้นกล้า กับกระถาง กับไม้เสียบทำเสาหลักยังไงดี?
  • ถ้าขวดพลาสติกหมดใช้อะไรแทนดี ถุงดำได้ไหม?
  • วางแผนลำดับขั้นตอนต่างๆ ยังไงดี อะไรก่อน อะไรหลัง: ขวด – ดิน – ต้นกล้า – ไม้ไผ่?
  • เราลัดขั้นตอนไหนได้บ้างนะ อิอิ?
  • ทำแล้วเหนื่อย จะพักดี หรือทำต่อดี เป้าหมายวันละ 20 ต้นพอมั้ย หรือ ค่อยเป็นค่อยไป?

           “สิ่งหนึ่งที่เด็กๆ ได้จากกิจกรรมนี้ คือพวกเขาได้ฝึกทำ ได้ลงมือทำ ได้เหนื่อย ได้บริหารจัดการเวลา และเรียนรู้งานบางอย่างตั้งแต่ต้นจนจบด้วยความเข้าใจถ่องแท้ (หรืออาจจะเท่าที่เขาเข้าใจในวันนี้) เขาจะต้องเป็นผู้ตามเป็นผู้ปฏิบัติที่ดีให้ได้ก่อน เมื่อเก่ง เมื่อเข้าใจ อนาคตก็จะสามารถเป็นผู้นำหรือผู้ออกแบบกิจกรรมได้ด้วยตนเอง จากนั้นเขาก็จะฝึก “ทักษะสื่อสาร” ต่อได้ไม่ยาก เมื่อเขาพร้อม เมื่อเขารู้จริง เมื่อเขาทำมากับมือ เขาก็จะนำเสนอสื่อสารได้ดีเอง พ่อเชื่ออย่างนั้น”

          ในฐานะของคุณพ่อลูกสองที่เป็นทั้งนักวิทยาศาสตร์ เป็นทั้งผู้นำแห่งแรงบันดาลใจด้าน STEAM ของลูกสาวและเด็กๆ ที่มาเรียนกิจกรรม STEAM Kids ที่บ้าน ขอฝากเกร็ดกิจกรรมสนุกๆ แบบฉบับของ STEAM Kids ที่เราสามารถใช้ประโยชน์จากดอกอัญชันที่ปลูกไว้ริมรั้ว เช่น

           (1) “น้ำอัญชันมะนาวสีรุ้ง แบบนี้ จะดื่มได้จริงๆ มั้ยน้า” น้ำอัญชันมีหลายสี ขึ้นอยู่กับสภาพกรด-ด่างของสารละลาย

               – กรดแก่ ให้สีแดง (เห็นได้ยาก เพราะต้องกรดแก่จริงๆ) / กรดอ่อน ให้สีแดงม่วง / กลาง ให้สีน้ำเงินม่วง / ด่างอ่อน ให้สีน้ำเงิน / ด่างแก่ ให้สีเขียว (เห็นได้ยาก ต้องใช้เบสแก่จริงๆ ซึ่งไม่ค่อยมีในอาหารทั่วไป)

ดอกไม้มหัศจรรย์กับกิจกรรม STEAM บ้านเรา
Photo : Kru’Golf Chem Stem Kids

            (2) “เรามาประดิษฐ์การ์ดล่องหนกันเถอะ” ขั้นตอน ดังนี้

               – ใช้ Cotton Bud จุ่มน้ำด่าง (เบกกิ้งโซดา) และน้ำกรด (มะนาว) แล้ววาดข้อความบนการ์ด ก่อนจะปล่อยให้แห้งจนมองไม่เห็นรอยน้ำยาดังกล่าว กลายเป็นการ์ดล่องหน

               – เมื่อเรามอบการ์ดให้กับใคร ก็จะใช้น้ำดอกอัญชันเข้มข้นทาลงไปบนการ์ด ก็จะสามารถแสดงข้อความหรือรูปภาพที่ซ่อนอยู่เอาไว้ได้ ปีนี้ “การ์ดวันแม่วันพ่อแบบล่องหน” ต้องเข้าแล้วล่ะ

          นอกจากนี้ดอกอัญชันยังสามารถนำมาใช้เป็นอาหารทั้งเป็นผักจิ้มน้ำพริก หรือนำมาชุบแป้งทอดก็อร่อยแบบเด็กๆ ได้ง่ายๆ หรือจะนำมาบดแล้วทาคิ้วทำยาสระผมบำรุงเส้นขนตามสูตรโบราณก็ได้ หรือจะคั้นน้ำทำน้ำมะนาวอัญชันสำหรับดื่มก็อร่อยชื่นใจในวันอากาศร้อน

          แต่ใครจะรู้บ้างว่า สารแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) ที่อยู่ในดอกอัญชัน ช่วยลดการเกิดลิ่มเลือดได้เป็นอย่างดี แล้วยังกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตด้วย ยืนยันจากหลายผลงานวิจัย เช่นงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ (Cambridge) ประเทศอังกฤษและตามรายงานในข่าวที่ว่าผู้ป่วยชายที่มีภาวะ Long COVID บางคนจะมีปัญหาขนาดของน้องชายขณะแข็งตัวเล็กลงเนื่องจากจากระบบไหลเวียนโลหิตที่ยังฟื้นตัวไม่เหมือนเดิม สารแอนโทรไซยานินในดอกอัญชันสามารถช่วยได้นะครับ แต่จะมากหรือน้อยก็ต้องรอการศึกษาเชิงลึกต่อไป (อิอิ) แต่สงสัยงานนี้มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ที่ได้อ่านบทความนี้รีบหาเมนูน้ำอัญชันมะนาวมาดื่มดับร้อนแก้กระหายกันถ้วนหน้าแน่ๆ เลย


ที่มา

บทความ “The effect of anthocyanin supplementation in modulating platelet function in sedentary population: a randomised, double-blind, placebo-controlled, cross-over trial” จาก cambridge.org (Online)

Tags: Content Creatorเรียนรู้สร้างสรรค์ สร้างสรรค์ความรู้

โครงการ Content Creator

Related Posts

ขบวนการหนังอิสระเมืองหาดใหญ่ @Lorem Ipsum มากกว่าความบันเทิง คือพื้นที่เรียนรู้ชีวิตอันหลากหลาย
Common EXPERIENCE

ขบวนการหนังอิสระเมืองหาดใหญ่ @Lorem Ipsum มากกว่าความบันเทิง คือพื้นที่เรียนรู้ชีวิตอันหลากหลาย

December 16, 2022
486
the LITTLE gallery – Silent Auction
Common EXPERIENCE

The LITTLE Gallery – Silent Auction

December 9, 2022
306
สอนวรรคดีไทยให้ใกล้หัวใจ Generation Z
Common EXPERIENCE

สอนวรรณคดีไทยให้ใกล้หัวใจ Generation Z

December 2, 2022
748

Related Posts

ขบวนการหนังอิสระเมืองหาดใหญ่ @Lorem Ipsum มากกว่าความบันเทิง คือพื้นที่เรียนรู้ชีวิตอันหลากหลาย
Common EXPERIENCE

ขบวนการหนังอิสระเมืองหาดใหญ่ @Lorem Ipsum มากกว่าความบันเทิง คือพื้นที่เรียนรู้ชีวิตอันหลากหลาย

December 16, 2022
486
the LITTLE gallery – Silent Auction
Common EXPERIENCE

The LITTLE Gallery – Silent Auction

December 9, 2022
306
สอนวรรคดีไทยให้ใกล้หัวใจ Generation Z
Common EXPERIENCE

สอนวรรณคดีไทยให้ใกล้หัวใจ Generation Z

December 2, 2022
748
ABOUT
SITE MAP
PRIVACY POLICY
CONTACT
Facebook-f
Youtube
Soundcloud
icon-tkpark

Copyright 2021 © All rights Reserved. by TK Park

  • READ
    • ALL
    • Common WORLD
    • Common VIEW
    • Common ROOM
    • Book of Commons
    • Common INFO
  • PODCAST
    • ALL
    • readWORLD
    • Coming to Talk
    • Read Around
    • WanderingBook
    • Knowledge Exchange
  • VIDEO
    • ALL
    • TK Forum
    • TK Common
    • TK Spark
  • UNCOMMON
    • ALL
    • Common ROOM
    • Common INFO
    • Common EXPERIENCE
    • Common SENSE

© 2021 The KOMMON by TK Park.

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

The KOMMON มีการใช้คุกกี้ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ไปวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่า อนุญาต
Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก
Privacy Preferences
https://www.thekommon.co/network/cache/breeze-minification/js/breeze_224220d8c0426dcd4e323181805200df.js