“ผมแค่หวังว่าผมจะมีโอกาสได้อ่านหนังสือมากกว่านี้ในวัยเด็ก แต่หนังสือเป็นสิ่งที่เราไม่เคยเอื้อมถึงเลยเพราะครอบครัวเราต้องเอาเงินไปซื้ออาหารก่อน มีหลายครั้งที่ผมคิดว่าการได้หลุดเข้าไปในเรื่องเล่าและโลกของการอ่านคงจะช่วยผมได้มาก แต่มันไม่เคยเกิดขึ้น ผมเลยอยากให้เด็กๆ ทุกคนมีโอกาสแบบนั้น ไม่ใช่แค่คนที่สามารถซื้อหาหนังสือได้”
เมื่อ 2 ปีที่แล้ว มาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford) กองหน้าของทีมฟุตบอลอังกฤษ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทีมเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา คือหนึ่งในบุคคลที่เคลื่อนไหวเพื่อปากท้องของเยาวชนอังกฤษกว่า 4 ล้านคน จากการระดมทุนเพื่อมอบอาหาร 3 ล้านชุด และเขียนจดหมายเปิดผนึกเพื่อร้องให้ สส. ในสภาพิจารณาไม่ยกเลิกงบประมาณโครงการอาหารฟรีให้กับเด็กๆ ในช่วงปิดเทอมภาคฤดูร้อนจนสำเร็จ
ตอนเด็กๆ เขาเป็นเด็กยากไร้จากครอบครัวแม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีพี่น้องอีก 5 คน แรชฟอร์ดจึงเข้าใจปัญหาปากท้องเป็นอย่างดี
ในปี 2021 นอกจากการทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลแฟร์แชร์ (FareShare) ที่เปิดรับบริจาคเพื่อเป็นค่าอาหารกลางวันของเด็กแล้ว แรชฟอร์ดยังร่วมกับสำนักพิมพ์วรรณกรรมเยาวชนแมคมิลลัน (Macmillan Children’s Books) และองค์กรการกุศลที่มอบอาหารเช้าให้กับเด็กนักเรียนที่ขาดแคลนอย่าง แมจิก เบรกฟาสต์ (Magic Breakfast) ก่อตั้งชมรมนักอ่านมาร์คัส แรชฟอร์ด (Marcus Rashford Book Club)
หนังสือกว่า 50,000 เล่มจะถูกบริจาคไปให้เด็กๆ ในครอบครัวเปราะบางกว่า 400,000 คนที่ไม่เคยมีหนังสือเป็นของตัวเองมาก่อน และส่งไปให้โรงเรียนประถมศึกษาในอังกฤษและสกอตแลนด์กว่า 850 แห่ง หนังสือแต่ละประเภทถูกออกแบบเพื่อมอบให้เด็กในวัยที่เหมาะสม และอนุญาตให้นำกลับบ้านได้ พวกเขาจะได้แบ่งปันพี่น้องหรือพ่อแม่ ใช้เวลาอ่านร่วมกันได้อย่างเต็มที่
งานวิจัยขององค์กรด้านการรู้หนังสือแห่งชาติของอังกฤษ (National Literacy Trust) ในปี 2019 ระบุว่าเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีเพียง 26% ที่อ่านหนังสือทุกวัน และเด็กกว่า 383,775 ชีวิตไม่มีหนังสือเป็นของตัวเอง
“…เด็กส่วนใหญ่ที่ไม่ได้อ่านหนังสือคือเด็กที่อยู่ในโครงการอาหารโรงเรียนฟรี และเป็นสมาชิกของเบรคฟาสต์ คลับ (โครงการสนับสนุนอาหารเช้าสำหรับนักเรียนที่ขาดแคลน) พวกเขาก็ต้องการอ่านวรรณกรรมและสารคดีเพื่อหลีกหนีจากความเป็นจริงบ้าง เราแทบไม่เคยให้ทางเลือกกับเด็กๆ เหล่านี้เลย แต่วันนี้มันจะเปลี่ยนไป” แรชฟอร์ด กล่าว
แรชฟอร์ดในวัย 17 ปีเพิ่งจะได้อ่านหนังสือเล่มแรกในชีวิต และมันเปลี่ยนมุมมองต่อการใช้ชีวิตของเขา ในอดีตเขาเคยเป็นเด็กยากจนที่ไม่มีโอกาสเข้าถึงการอ่าน แต่ทุกวันนี้เขาเป็นนักฟุตบอลที่ประสบความสำเร็จ การทำงานขององค์กรเพื่อสุขภาพของเด็ก (ด้านอาหาร) และพัฒนาการด้านการอ่านไปพร้อมกัน จึงเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของแรชฟอร์ด
ไม่เพียงแค่แจกหนังสือเท่านั้น แรชฟอร์ดยังมีความต้องการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม เขาลงไปทำกิจกรรมกับชมรมนักอ่านด้วยตนเองและในแบบออนไลน์ด้วย ที่สำคัญคือเขาร่วมเขียนหนังสือ ‘You Are a Champion: How to Be the Best You Can Be’ กับทีมงาน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ อายุ 11-16 ปีได้รับรู้ว่าตัวเองมีพลังและมีสิทธิมีเสียงมากพอ
ช่วงวัยนี้เป็นช่วงวัยสำคัญในการพัฒนาความรู้ทางวิชาการ (ซึ่งมักจะเป็นช่วงเวลาที่การอ่านเพื่อความรื่นรมย์ลดน้อยลง) รวมถึงยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กๆ เห็นว่าคนผิวดำก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้คนอื่นๆ และหนังสือเล่มนี้ยังได้รับรางวัล WH Smith’s Book of the Year ทั้งยังติดอันดับเข้ารอบในงานประกาศรางวัลสารคดีประจำปีสำหรับเยาวชน (Children’s Non-fiction Book of the Year) ของ British Book Awards 2023 อีกด้วย
ชมรมนักอ่านแบบแรชฟอร์ดมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ในแง่ของการสนับสนุนวรรณกรรมเยาวชนที่มีคุณภาพและครอบคลุมผู้คนทุกแบบจากทุกภูมิหลัง ดร. เมลานี แรมเดอร์ชาน โบลด์ (Melanie Ramdarshan Bold) จากมหาวิทยาลัยยูซีแอล (UCL- University College London) ที่ทำงานวิจัยด้านหนังสือและการอ่าน กล่าวสนับสนุนแรชฟอร์ดและความพยายามของเขาที่จะส่งเสริมความเท่าเทียมในสังคมผ่านโครงการที่ทำ เธอกล่าวว่า หนังสือจะเป็นตัวแทนสะท้อนสังคมต่างๆ และทำให้นักอ่านรุ่นจิ๋วเห็นว่าเขามองตัวเองและโลกรอบตัวอย่างไร
“การถูกยอมรับและรับรู้ว่ามีตัวตนคือจุดโฟกัสหลักของโครงการนี้ ให้เด็กๆ เข้าใจว่าพวกเขาไม่ได้อยู่เพียงลำพัง และกระตุ้นให้พวกเขากล้าฝัน ติดเครื่องมือให้พวกเขาสู้กับอุปสรรคและเคราะห์ร้ายที่อาจจะต้องเผชิญหน้า เปิดโอกาสให้พวกเขาได้เชื่อมโยงกับตัวละครที่เรามั่นใจแล้วว่าเล่าเรื่องผู้คนจากทุกชาติ ศาสนา และเพศ อย่างถูกต้องและเป็นตัวแทนของสังคมยุคใหม่
“ไม่ว่าคุณจะเกิดที่ไหน ความสามารถของคุณก็สมควรที่จะได้รับการยกย่องและถูกจดจำ” มาร์คัส แรชฟอร์ด กล่าว
ติดตามชมรมนักอ่านของมาร์คัส แรชฟอร์ด ได้ที่
Website : National Literacy Trust
Twitter : Henry Fawcett Primary
ที่มา
เว็บไซต์ Marcus Rashford (Online)
บทความ “Rashford demands a ‘meal a day’ for all school pupils in need” theguardian.com (Online)
บทความ “Marcus Rashford’s work with FareShare” fareshare.org.uk (Online)
บทความ “Book Club – Inspiring Young Readers – Magic Breakfast” magicbreakfast.com (Online)
บทความ “Marcus Rashford’s book club couldn’t come at a better time – children’s reading is at a 15-year low” theconversation.com (Online)
บทความ “Marcus Rashford” twitter.com (Online)