ปัจจุบัน เกาหลีใต้เริ่มนำหุ่นยนต์อัตโนมัติมาใช้ในงานภาคบริการหลายด้าน เช่น ที่สนามบินนานาชาติอินชอน มีหุ่นยนต์ทำความสะอาดและเป็นไกด์นำเที่ยว โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงโซลมี ‘N bot’ ทำหน้าที่ส่งอาหารและของใช้ให้ผู้เข้าพัก ผู้ให้บริการส่งอาหารชั้นนำของเกาหลีใต้มีหุ่นยนต์ชื่อ ‘Dilly Tower’ ขึ้นลิฟต์ไปมาระหว่างชั้นต่างๆ เพื่อส่งเครื่องดื่มและขนม ส่วนร้านหนังสือมือสองในปูซาน ให้หุ่นยนต์ชื่อ ‘Around’ คอยเก็บหนังสือที่ลูกค้าหยิบไปอ่าน
ล่าสุด กรุงโซลเปิดตัวรถห้องสมุดอัจฉริยะตัวแรก เพื่อวิ่งไปรอบๆ สวนสาธารณะอย่างอิสระ มันจุหนังสือได้ 100 เล่ม ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงและวัดระยะ (LiDAR) และค้นหาตำแหน่งด้วยสัญญาณ GPS สมาชิกห้องสมุดประชาชนที่กำลังเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจหรือออกกำลังกายในสวน สามารถยืมหนังสือจากหุ่นยนต์ได้ครั้งละ 2 เล่ม เมื่อนำไปอ่านแล้วสามารถส่งคืนได้ที่ตู้คืนหนังสือด้วยตนเองในสวนสาธารณะภายใน 2 สัปดาห์
อันที่จริงแล้ว ภายใต้กฎหมายปัจจุบัน หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตนเองไม่สามารถทำงานบนถนนหรือทางเท้าได้ เนื่องจากถือเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่ง แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา กระทรวงการค้าของเกาหลีใต้มีการประชุมพิจารณาเรื่องนี้ใหม่ และมีมติยกเว้นเป็นกรณีพิเศษให้หุ่นยนต์ห้องสมุดนี้ เนื่องจากมีการทดสอบด้วยหุ่นยนต์อื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันแล้วว่า ไม่ได้ก่อให้เกิดอุบัติเหตุแต่อย่างใด ทั้งนี้ จะเริ่มมีการนำหุ่นยนต์ห้องสมุดขับเคลื่อนอัตโนมัติไปใช้ในภูมิภาคอื่นๆ ในเดือนมีนาคม 2022
นอกจากนี้ กรุงโซลเพิ่งมีการติดตั้งห้องสมุดอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน ด้วยหนังสือมากกว่า 1,000 เล่ม มันถูกออกแบบมาเพื่อให้คนเข้าถึงบริการยืมหนังสือได้ง่าย รวดเร็ว และปลอดภัย โดยเฉพาะในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19
หัวหน้าบรรณารักษ์ของห้องสมุดกรุงโซลกล่าวว่า “เราจะขยายบริการแบบไร้การสัมผัส (contact-free) อย่างต่อเนื่อง โดยการเตรียมสภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดที่ประชาชนสามารถยืมหนังสือได้ตลอดทั้งปี เพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมการอ่านทั่วทั้งเมือง”
ที่มา
บทความ “S. Korea’s First Autonomous Library Robot Approved” จาก koreabizwire.com (Online)
บทความ “Seoul’s satellite city to demonstrate autonomous smart librarian robot” จาก ajudaily.com (Online)
บทความ “If this self-driving library came to my town, maybe I’d read a damn boo” จาก thenextweb.com (Online)