เก็บฐานข้อมูลอากาศ ก่อนจะขาดลมหายใจ

10 views

June 21, 2023

ณ ปลายแหลม ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือบนเกาะแทสเมเนีย ประเทศออสเตรเลีย หรือ เคปกริม (Cape Grim) ได้รับการกล่าวขานว่ามีอากาศบริสุทธิ์มากที่สุดแห่งหนึ่ง กระแสลมถูกพัดพามาจากมหาสมุทรแอนตาร์กติกอันกว้างใหญ่โดยไม่ผ่านตัวแปรใดๆ และไม่ได้รับผลกระทบจากมลพิษบนแผ่นดิน อากาศของที่นี่จึงสามารถเป็นตัวแทนของสภาพอากาศโลก

ด้วยเหตุผลดังกล่าว ปี 1970 ดร.พอล เฟรเซอร์ นักวิจัยขององค์กรวิจัยวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมแห่งเครือจักรภพ (CSIRO) จึงได้ริเริ่มโครงการจัดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเคปกริมขึ้นบนเกาะแห่งนี้ วัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานที่เก็บอากาศ สำหรับนำไปศึกษาความเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อม และติดตามภาวะก๊าซเรือนกระจก อีกทั้งเขามีความคิดว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยในอนาคต

ตั้งแต่ปี 1978 เป็นต้นมา ทุกๆ 3 เดือน นักวิจัยจะบรรจุอากาศที่เก็บจากเคปกริม ประมาณ 1,000 ลิตรลงในถังสเตนเลส และลำเลียงไปเก็บไว้ภายในคลังที่ห้องปฏิบัติการของ CSIRO ซึ่งอยู่ห่างออกไปในเมืองเอสเพนเดล (Aspendale) รัฐวิกตอเรีย ตัวอย่างอากาศที่ได้จะถูกวิเคราะห์เพื่อบันทึกข้อมูลสำคัญ เช่น การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบในชั้นบรรยากาศ ปริมาณก๊าซเรือนกระจกและสารที่ทำให้เกิดรูรั่วในชั้นโอโซน รวมถึงคุณลักษณะอื่นๆ ที่จะมีผลกระทบต่อสภาพอากาศไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม

คลังนี้ยังมีการเก็บตัวอย่างอากาศที่ย้อนไปได้ถึงปี 1968 ซึ่งได้มาจากอากาศในถังดำน้ำเก่าที่มีผู้บริจาคให้ ที่นี่จึงเป็นดังห้องสมุดหรือหอจดหมายเหตุเกี่ยวกับสภาพอากาศของโลกที่เก่าแก่และสำคัญมากแห่งหนึ่ง นักวิจัยจากทั่วโลกสามารถใช้ข้อมูลที่รวบรวมไว้เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบจากกิจกรรมของมนุษย์ และพัฒนานโยบายที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อม

คอลเลกชันอากาศจากเคปกริมมีส่วนสนับสนุนเนื้อหาในรายงานการประเมินของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) หลายฉบับ และเป็นข้อมูลช่วยในการประเมินผลกระทบและติดตามความก้าวหน้าของมาตรการลดก๊าซเรือนกระจกในออสเตรเลีย

ฐานข้อมูลเหล่านี้ยังถูกต่อยอดไปสู่รายงานวิจัยมากกว่า 700 ฉบับ ข้อค้นพบสำคัญ เช่น นักวิทยาศาสตร์พบว่าแพลงก์ตอนพืชเป็นแหล่งกำเนิดของก๊าซที่มีบทบาทในการก่อตัวของเมฆ รวมถึงระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้นจากประมาณ 335 ppm (ส่วนในล้านส่วน) ในปี 1978 เป็นมากกว่า 415 ppm ในปี 2021

สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเคปกริมเป็นหนึ่งในเครือข่ายสถานีตรวจวัดฯ โครงการ Global Atmosphere Watch ขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) และยังทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ เอกชน และภาคประชาชน นอกจากบทบาทด้านการวิจัย ที่นี่ยังเป็นพื้นที่ฝึกอบรมสำหรับนักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศรุ่นใหม่อีกด้วย

ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่น โลกร้อน ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น พายุ และภัยธรรมชาติ การดำเนินงานของสถานีตรวจวัดฯ และคลังข้อมูลอากาศจากเคปกริมจะยิ่งทวีบทบาทสำคัญต่อการทำความเข้าใจ ป้องกัน และหาทางแก้ไขวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมในอนาคตต่อไป

ดูข้อมูลก๊าซเรือนกระจกจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศเคปกริม csiro.au