ทุกบ่ายวันอาทิตย์ ถนนเล็กๆ ใกล้วัดศรีนวรัฐ (วัดทุ่งเสี้ยว) อำเภอสันป่าตอง จังหวัดเชียงใหม่ ถูกเปลี่ยนเป็น ‘กาดก้อม กองเตียว’ ซึ่งแปลว่า ตลาดเล็กๆ บนถนนคนเดิน ชาวชุมชนรับบทเป็นพ่อค้าแม่ค้าเฉพาะกิจตั้งแผงขายของ ทั้งพืชผักสวนครัว อาหารปรุงสำเร็จ ขนมโบราณหากินยาก อย่างเช่น ขนมเทียนแก้วเนื้อหนึบ ขนมครกโบราณแบบโรยด้วยน้ำตาลทราย ขนมฟักเขียว ดอกไม้ เสื้อผ้า และเครื่องประดับ นักท่องเที่ยวทั้งในและนอกพื้นที่ต่างเดินชิมและเลือกชมสินค้าอย่างเพลิดเพลิน
กาดก้อม กองเตียว เปิดมาตั้งแต่ปี 2561 โดยมี พระครูถาวรนพรัฐ เจ้าอาวาสวัดศรีนวรัฐ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิด และสมาชิกชุมชนร่วมแรงร่วมใจกันสานต่อ เพื่อบอกเล่าให้ทุกคนรับรู้ว่า สันป่าตองเป็นพื้นที่รุ่มรวยทางวัฒนธรรม ในอดีตเมื่อประมาณ 100 ปีก่อน ย่านนี้เป็นเส้นทางหลักที่เกวียนขนข้าวของเจ้าแก้วนวรัฐ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่แล่นผ่าน โดยหยุดพักที่คุ้มหน้าวัดศรีนวรัฐก่อนส่งเข้าไปขายในเมือง นอกจากนี้ สันป่าตองยังมีกลุ่มชาติพันธุ์อาศัยอยู่ถึง 5 กลุ่ม ได้แก่ ไทยวน ไทยอง ไทเขิน ไทลื้อ และลัวะ ทำให้เกิดความหลากหลายซึ่งผสมผสานกันในชุมชน สะท้อนผ่านประเพณีและวิถีชีวิต
หากใครใช้เวลาเดินเล่นกาดก้อม กองเตียวสักพัก คงสะดุดตากับผู้ชายชาวเหนือผิวสองสี ผมยาว ที่มักเตร็ดเตร่ไม่ห่างจากร้านค้า เขาคือ ‘พ่อหลวงรุ่งโรจน์’ หรืออาจารย์รุ่งโรจน์ เปี่ยมยศศักดิ์ อดีตผู้ใหญ่บ้านและศิลปินพื้นถิ่น ซึ่งศึกษารวบรวมข้อมูลเรือนเครื่องไม้นับร้อยหลัง เขามองว่า เรือนเหล่านี้คือศิลปะชุมชนซึ่งกำลังเลือนหาย ทั้งสาเหตุจากการผุพังตามกาลเวลา และขาดความสนใจจากชนรุ่นหลัง สิ่งที่เขามองหาคือการฟื้นฟูมรดกทางวัฒนธรรม และการเรียนรู้เพื่อสืบทอดของคนในชุมชน
ขณะเดียวกัน มีนักวิจัยและนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยในเชียงใหม่จำนวนหนึ่งสนใจและเห็นความสำคัญของชุมชนแห่งนี้ ทั้งประเด็นเกี่ยวกับกาดก้อม เรือนไม้ วัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ ประวัติข้าวพันธุ์สันป่าตอง และฝีมือช่างพื้นถิ่น ที่นี่จึงกลายเป็นพื้นที่วิจัยและเรียนรู้ของนักวิชาการ โดยมีพ่อหลวงรุ่งโรจน์เป็นหนึ่งในตัวแทนชุมชนซึ่งช่วยขับเคลื่อน หลักฐานเชิงประจักษ์ถึงความร่วมมือระหว่างชุมชนและสถาบันการศึกษา เช่น ภาพสตรีทอาร์ตแสดงวิถีชุมชนบนผนังศาลาการเปรียญและกำแพงวัดศรีนวรัฐ และงานวิจัยเชิงบูรณาการที่เกิดจากความร่วมมือของทุกสาขา ทั้งสถาปัตยกรรม การท่องเที่ยว สังคมศาสตร์
สันป่าตองในวันนี้ บ้านเรือนหลายหลังมีบทบาทเป็นแหล่งเรียนรู้มีชีวิต ซึ่งเจ้าของบ้านพร้อมจะบอกเล่าประวัติศาสตร์อันน่าภูมิใจ ส่วนกาดก้อม กองเตียวเป็นเหมือน Showcase ของชุมชน ทุกองค์ประกอบ ทั้งสินค้า ศิลปิน และผู้คน สามารถเชื่อมโยงไปสู่เรื่องราวของช่างฝีมือแห่งลุ่มแม่น้ำขาน และเป็นพื้นที่ให้คนทั้งในชุมชนและมีปฏิสัมพันธ์กัน
“ถ้าอยากรู้ประวัติของ ‘แกงเหมือน’ เราคงต้องคุยกันยาว บอกได้เลยว่า มีแค่ที่นี่ที่เดียว และมีสตอรี่ด้วย”
บทสนทนาง่ายๆ ของแม่ค้าขายอาหารในชุดพื้นเมือง จุดประกายให้กับผู้มาเยือนจากต่างถิ่นเกิดความอยากรู้เกี่ยวกับแกงไก่ใส่ใบเล็บครุฑและสมุนไพรพื้นถิ่นอีกนับชนิดไม่ถ้วน
กาดก้อม กองเตียว จึงเป็นมากกว่าจุดหมายเพื่อการท่องเที่ยว แต่เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ผ่านสถาปัตยกรรมและเรื่องเล่าระหว่างผู้คน ความเข้มแข็งของชุมชนมาจากส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างการสนับสนุนเชิงวิชาการและความร่วมมือของชาวสันป่าตอง ซึ่งได้ช่วยกันผลักดัน คิดค้น วางแผน เป็นกระบอกเสียงร่วมพัฒนาพื้นที่ของตนเองให้เป็นที่รู้จัก


ที่มา
บทความ “ลมหายใจของการอนุรักษ์ (อาจารย์รุ่งโรจน์ เปี่ยมยศศักดิ์) – The Breath of Conservation, Ajarn Roongroj Paimyossak” จาก art-culture.cmu.ac.th (Online)
เฟซบุ๊ก กาดก้อม กองเตียว (Online)