หากนึกถึงเทพนิยายในดวงใจ เชื่อว่าหลายคนน่าจะนึกถึงผลงานของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (Hans Christian Andersen) นักเขียนชาวเดนมาร์ก ผู้มีผลงานโด่งดังมากมาย เช่น นางเงือกน้อย, กล่องหินเหล็กไฟวิเศษ, ทัมเบลินา, ราชินีหิมะ และลูกเป็ดขี้เหร่ ฯลฯ หลายเรื่องยังคงได้รับความนิยมจวบจนปัจจุบัน รวมถึงการนำมาดัดแปลงต่อยอดเป็นผลงานแขนงอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน
สำหรับใครที่เคยนึกฝันว่าอยากสัมผัสความมหัศจรรย์ในเทพนิยายเหล่านั้น วันนี้ฝันของคุณได้รับการเนรมิตให้เป็นจริงแล้ว ณ พิพิธภัณฑ์ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน (H.C. Andersen’ s House) ประเทศเดนมาร์ก
หลังจากปิดปรับปรุงครั้งใหญ่เป็นเวลา 10 ปี ด้วยงบประมาณราว 62.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พิพิธภัณฑ์ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ก็ได้ฤกษ์เปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะดึงดูดผู้เข้าชมได้มากถึง 220,000 คนต่อปี
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 5,600 ตารางเมตร ตั้งอยู่ที่เมืองโอเดนเซ (Odense) ประเทศเดนมาร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ ฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน ความพิเศษคือนอกจากจะเป็นสถานที่ที่นำเสนอเรื่องราวชีวิตและผลงานของแอนเดอร์เซนแล้ว ทีมงานผู้ออกแบบยังมุ่งหวังให้ผู้เข้าชมได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ ราวกับหลุดเข้าไปในเทพนิยาย
เฮนริก ลีบ (Henrik Lübker) ผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของพิพิธภัณฑ์ กล่าวว่า “จักรวาลของฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน เป็นสิ่งมหัศจรรย์ เขานำเสนอโลกที่เราทุกคนต่างรู้จักดีในมุมมองใหม่ที่เกินกว่าที่เราจะจินตนาการได้ โดยที่ไม่ได้ปรุงแต่งหรือเพิ่มสิ่งแปลกปลอมลงไป” ด้วยเหตุนี้ ทีมผู้สร้างจึงมีความพยายามนำเสนอมุมมองของแอนเดอร์เซนที่มีต่อโลกด้วย ผ่านองค์ประกอบต่างๆ ภายในพิพิธภัณฑ์
ตัวอย่างเช่น จากทางเข้าด้านหน้า ผู้เข้าชมจะต้องลัดเลาะผ่านสวนขนาดใหญ่ ผ่านเส้นทางคดเคี้ยวที่เป็นเหมือนเขาวงกตย่อมๆ เพื่อลงไปยังพื้นที่จัดแสดงที่อยู่ชั้นใต้ดิน และเมื่อแหงนมองขึ้นไปยังเพดานใส บริเวณใจกลางโถง คนข้างล่างจะมองเห็นท้องฟ้าและผู้คนที่เดินผ่านไปมาอยู่ด้านบน ประหนึ่งคุณคือนางเงือกน้อยใต้ผืนสมุทรที่เฝ้าฝันอยากขึ้นไปสัมผัสพื้นโลกสักครั้ง
เคงโกะ คุมะ (Kengo Kuma) สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น ผู้ร่วมออกแบบพิพิธภัณฑ์ เปิดเผยถึงแนวคิดในการออกแบบว่า เทพนิยายเรื่อง ‘กล่องหินเหล็กไฟวิเศษ’ (The Tinderbox) เป็นแรงบันดาลสำคัญในการออกแบบครั้งนี้ โดยเขามีความตั้งใจให้สถานที่แห่งนี้เป็น “ที่ที่โลกใบเล็กขยายใหญ่เป็นจักรวาลในชั่วพริบตา” ดั่งต้นไม้ในเทพนิยายที่เผยให้เห็นโลกใต้ดินอันน่าอัศจรรย์ใจ ขณะเดียวกันก็หวังว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ จะช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ เกี่ยวกับการดำรงอยู่ของผู้คนในอนาคตด้วย
“ผมคิดว่าพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการสดุดีต่อฮันส์ คริสเตียน แอนเดอร์เซน เท่านั้น แต่พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ควรจะแสดงให้เห็นถึงสังคม โลก และเมืองแห่งอนาคต นั่นคือความหวังของผม”
ที่มา
บทความ “kengo kuma-designed hans christian andersen museum set to open in denmark” จาก designboom.com (Online)
บทความ “New Museum On Hans Christian Andersen’s Fairy Tales To Open In Summer 2021” จาก forbes.com (Online)
เว็บไซต์ H.C. Andersens Hus (Online)
