สำหรับใครหลายคน ‘เครื่องพิมพ์ดีด’ อาจเป็นเพียงเครื่องมือในความทรงจำที่ล้าสมัย หรือเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ในภาพยนตร์ และเป็นของสะสมตามพิพิธภัณฑ์ …แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน
ในอินเดีย ทักษะการพิมพ์เร็วยังคงเป็นที่ต้องการของตลาดงาน สถาบันสอนการพิมพ์หลายแห่งในกรุงเดลีมีนักเรียนจำนวนมากที่ต้องการฝึกฝนเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด จากเดิมที่ครั้งหนึ่งมันเคยถูกละเลย
“เป็นการยากที่จะเรียนรู้การเคลื่อนไหวของนิ้วบนแป้นพิมพ์ที่เรียบแบนของคอมพิวเตอร์ แต่เมื่อคุณได้เรียนรู้จากเครื่องพิมพ์ดีดแล้ว การพิมพ์บนแป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์ก็เหมือนการเล่นของเด็ก การเรียนรู้การพิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีดเหมือนการฝึกเล่นเครื่องดนตรี มันเป็นงานที่หนัก” หนึ่งในผู้เรียนซึ่งปรารถนาจะเป็นพนักงานพิมพ์ดีดในศาลสูงเดลีกล่าว
เครื่องพิมพ์ดีดยังช่วยฝึกความแม่นยำและระมัดระวังเพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในงาน เอสเค บันซัล (SK Bansal) ผู้บริหาร Anand Type Shorthand & Key Punching College ซึ่งมีนักเรียนพิมพ์ดีดมากกว่า 50 คน กล่าวว่า “กลไกการตัดและวางแทนที่ รวมถึงระบบแก้ไขอัตโนมัติในคอมพิวเตอร์ ทำให้คุณขี้เกียจใช้ความคิด แต่ไม่มีใครอยากใช้น้ำยาลบคำผิดบนหน้ากระดาษที่พิมพ์ด้วยเครื่องพิมพ์ดีด ซึ่งต้องใช้ทั้งนิ้วและจิตใจของคุณ”
เครื่องพิมพ์ดีดยังกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้เด็กนักเรียนละห่างจากหน้าจอสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์ ดีเร็ค เดมม์เลอร์ (Derek Demmler) ครูสอนวิชาประวัติศาสตร์ในโรงเรียนแถบชนบทของสหรัฐอเมริกา และเป็นผู้ดูแลชมรมการเขียนเชิงสร้างสรรค์ ริเริ่มรวบรวมเครื่องพิมพ์ดีดจากเพื่อนๆ และครอบครัวมาได้ประมาณ 10 เครื่อง เพื่อนำมาเป็นเครื่องมือให้นักเรียนใช้สร้างสรรค์ผลงานเขียน
เขาบอกว่าเครื่องพิมพ์ดีดเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เด็กๆ ใส่ใจกับงานเขียนของตัวเองมากขึ้น “ผมต้องการให้พวกเขาคิดและตั้งใจกับการเลือกใช้คำแต่ละคำ และเพื่อแยกพวกเขาออกจากคอมพิวเตอร์”
เครื่องพิมพ์ดีดเป็นเครื่องมือที่มีลำดับขั้นตอนการทำงานชัดเจนเรียบง่าย ช่วยสร้างสมาธิและชวนให้จดจ่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า เสียงกระทบของแป้นพิมพ์ยังสร้างบรรยากาศเสมือนเราได้กลายเป็นนักประพันธ์ในอดีต
ในนิทรรศการจัดแสดงเครื่องพิมพ์ดีดของนักเขียนชื่อดังอย่าง แจ็ค ลอนดอน เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์ รวมถึงศิลปินนักร้องนักแต่งเพลงอย่าง จอห์น เลนนอน ซึ่งจัดขึ้นที่พิพิธภัณฑ์นักเขียนอเมริกัน (American Writers Museum) แครีย์ แครนสตัน (Carey Cranston) ประธานของพิพิธภัณฑ์ กล่าวว่า
“การเขียนด้วยดินสอหรืออุปกรณ์อื่นๆ นั้น คุณจะถูกเบี่ยงเบนความสนใจด้วยการขีดเขียนเล่น เช่นเดียวกับในคอมพิวเตอร์ที่คุณจะพบสิ่งรบกวนสมาธิได้ง่าย แต่เครื่องพิมพ์ดีดถูกประดิษฐ์ขึ้นเพื่อการเขียนโดยเฉพาะ ไม่มีสิ่งรบกวน มีแค่คุณกับแผ่นกระดาษ”
เทคโนโลยีและเครือข่ายสารสนเทศที่รวดเร็วฉับไวในศตวรรษที่ 21 ทำให้ผู้คนใช้เวลาผ่านหน้าจอมากขึ้นจนอาจเกิดอาการ ‘เหนื่อยล้าทางออนไลน์’ ด้วยเหตุนี้จึงมีคนเริ่มแสวงหาความเรียบง่ายและย้อนกลับไปหาความรู้สึกที่จับต้องได้แห่งวันวาน ข้อมูลจากบริษัท Gramercy Typewriter Company ธุรกิจค้าปลีกและซ่อมแซมเครื่องพิมพ์ดีดในนิวยอร์ก เปิดเผยว่า คนรุ่นใหม่หันมาสนใจเครื่องมือย้อนยุคชนิดนี้มากขึ้น
ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 มียอดขายเครื่องพิมพ์ดีดเฉลี่ยเพียง 10 เครื่องต่อเดือน แต่ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พอล ชไวท์เซอร์ (Paul Schweitzer) เจ้าของบริษัทกล่าวว่า “ผู้คนต่างก็รักเครื่องพิมพ์ดีดที่พาเรากลับไปสู่ช่วงเวลาที่ช้าและเงียบกว่า”
ที่มา
บทความ “Demand for vintage items like typewriters, records, and film is surging, even as Big Tech pitches the metaverse” จาก businessinsider.com (Online)
บทความ “Georgia teacher uses typewriters to get students away from computers” จาก tennessean.com (Online)
บทความ “Will Typewriters Become Popular Again?” จาก learningenglish.voanews.com (Online)
บทความ “Five reasons to still use a typewriter” จาก bbc.com (Online)
บทความ “Are typewriters the answer to snooping?” จาก bbc.com (Online)
บทความ “Sales are booming at Manhattan typewriter store, mostly thanks to young people (and Tom Hanks)” จาก washingtonpost.com (Online)
บทความ “Key skills: Typewriter finds its place despite digital onslaught | Latest News Delhi” จาก hindustantimes.com (Online)
บทความ “India’s nostalgic passion for old typewriters” จาก bbc.com (Online)
