หากพูดถึงร้านหนังสืออิสระในประเทศไทยที่ยืนระยะอยู่มาได้ยาวนานจนมีแฟนคลับเหนียวแน่น แน่นอนว่าต้องมีชื่อ ร้านหนังสือเดินทาง – Passport Bookshop ของ หนุ่ม-อำนาจ รัตนมณี ติดโผ ร้านหนังสือชื่อดังย่านพระนครแห่งนี้ ทำหน้าที่เป็นฟันเฟืองเล็กๆ ในการขับเคลื่อนชุมชนนักอ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี แต่แล้วการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็มาถึง เมื่อร้านต้องโยกย้ายไปสู่สถานที่ใหม่ เพราะพื้นที่เดิมถูกนำไปพัฒนาเป็นโครงการสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง
หนุ่มคาดการณ์ว่าร้านหนังสือเดินทางในโลเคชันใหม่ จะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบราวช่วงกลางปี 2566 ระหว่างนี้เขาจึงปลุกปั้น ‘The Willow Teashop’ ขึ้นมาเป็นโปรเจกต์คั่นเวลา เพื่อให้ลูกค้าที่คิดถึงได้แวะเวียนมาเยี่ยมเยือน รวมถึงขยายกลุ่มเป้าหมายไปยังนักท่องเที่ยวและลูกค้าใหม่ที่มาเยือนย่านบางคลองหลวง
“ระหว่างที่ผู้รับเหมาและช่างกำลังทำร้านใหม่ พี่ทำอะไรได้ไม่เยอะแต่ก็จำเป็นต้องเข้าไปดูเรื่อยๆ ว่าช่างทำงานไปถึงไหนแล้ว เวลาที่เหลือก็ว่างแต่เป็นการว่างที่ไปไหนไกลไม่ได้ สุดท้ายเจ้าของบ้านศิลปินซึ่งเขาเป็นลูกค้าพี่มา 20 กว่าปีจนกลายเป็นเพื่อนกันไปแล้ว เลยเกิดไอเดียว่าแทนที่จะอยู่เฉยๆ ลองมาทำอะไรบนชั้นสองของบ้านศิลปินที่ว่างอยู่ไหม”
คำเชิญชวนนั้นจึงกลายเป็นที่มาของ The Willow Teashop ร้านชาเล็กๆ ริมคลองบางหลวงที่ขายชาคู่กับสโคนโฮมเมดและหนังสือ โดยตั้งอยู่บนชั้น 2 ของบ้านศิลปินคลองบางหลวง บ้านไม้ทรงมะนิลาอายุกว่าร้อยปีที่ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการจัดแสดงงานศิลปะและเวิร์กชอปน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง
“ถ้าใครเคยไปร้านหนังสือเดินทางแล้วจำได้ ตรงหน้าเคาน์เตอร์จะมีป้ายไม้อันหนึ่งเขียนว่า The Willow Teashop ป้ายนี้ติดอยู่ที่ร้านเดิมมาตลอด พี่เลยรู้สึกว่าในเมื่อเราไม่สามารถเอาร้านเดิมไปไว้ที่บ้านศิลปินได้เพราะสเปซมันไม่เหมือนกัน ถ้าจะทำโปรเจกต์คั่นเวลาเราใช้ร้านชาไปอยู่ตรงนั้นดีกว่า สุดท้ายเลยกลายเป็นคอนเซปต์ว่านี่คือร้านชา ที่มีสโคนให้ชิม มีหนังสือขาย ซึ่งทั้งหมดนี้ร้านหนังสือเดินทางมีอยู่ก่อนแล้ว แต่เราหยิบยกของเก่ามาบางส่วนที่คิดว่ามันเหมาะกับพื้นที่ มันไม่ใช่แค่ร้านชาอย่างเดียว และไม่ใช่แค่ร้านหนังสืออย่างเดียว”
หลังจากทดลองเปิดให้บริการ The Willow Teashop มาได้สักพัก หนุ่มและโยก็พบว่าคนที่คิดถึงร้านหนังสือเดินทางใช้โอกาสนี้เดินทางมาพบปะกันไม่น้อย “ที่นี่ไม่ใช่ร้านหนังสือเดินทาง แต่ตราบใดที่เจ้าของยังเป็นคนเดิม บรรยากาศบางอย่างมันก็ไม่ต่าง ในมุมหนึ่งพี่เองก็ไม่เหงาเกินไป ส่วนในมุมของลูกค้าถ้าเขาคิดถึงนี่ก็เป็นสถานที่ที่เราจะได้เจอะเจอกันในช่วงนี้”
นอกจากนี้ The Willow Teashop ยังเข้ามาเป็นส่วนต่อขยาย ทำให้คนที่สนใจมาเยี่ยมชมบ้านศิลปินคลองบางหลวงมีทางเลือกใหม่ในการมาเยือนเพิ่มขึ้น “บ้านศิลปินมีนักท่องเที่ยวฝรั่งเยอะมาก ส่วนใหญ่หนังสือที่พี่เอาไปเลยเป็นหนังสือภาษาอังกฤษ บ้านศิลปินเปิดมาสิบกว่าปีแล้ว เขาเองก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาหลายยุคเหมือนกัน ตอนนี้พื้นที่ชั้นล่างของบ้านจะมีงานศิลปะจัดแสดงถาวรอยู่และมีเวิร์กชอป DIY เกี่ยวกับศิลปะ เช่น ร้อยกำไลลูกปัด งานเพนต์ วาดรูปลงบนปฏิทิน”
ในฐานะคนทำร้านหนังสืออิสระ หนุ่มมองว่าปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสนใจคือ การที่คนไทยโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่นเดินทางมาทำเวิร์กชอปที่บ้านศิลปินกันเยอะมาก เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่าวัยรุ่นไทยไม่ได้สนใจเดินแต่ห้างสรรพสินค้า ทว่าพวกเขายังให้ความสนใจงานศิลปะและกิจกรรมสร้างสรรค์กันไม่น้อย หากมีการพัฒนาพื้นที่ในลักษณะนี้ให้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ตอบโจทย์ บ้านเก่าริมน้ำก็สามารถดึงดูดใจให้คนรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวมาเยือนได้ไม่ขาดสาย “พื้นที่ตรงนี้ไม่ได้มีความเนี้ยบความหรูหรา แต่ค่อนข้างสงบและทำให้ได้อยู่กับกิจกรรมบางอย่างที่คุณทำมันขึ้นมาได้ด้วยมือ ได้เห็นวิถีชีวิตของผู้คน ได้อยู่กับสายน้ำและฝูงปลาในแม่น้ำ” หนุ่มกล่าวทิ้งท้าย
บ้านศิลปินคลองบางหลวงเปิดให้บริการทุกวัน ส่วน The Willow Teashop เปิดให้บริการวันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ และวันจันทร์ เวลา 11.00-18.00 น. หากเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสามารถลง MRT สถานีบางไผ่ ทางออก 4 เดินเข้าซอยเพชรเกษม 20 ประมาณ 10-15 นาที
ที่มา
เฟซบุ๊ก ร้านหนังสือเดินทาง – Passport Bookshop (Online)
Photo: The Willow Teashop