สตาร์ทอัปสัญชาติเกาหลีใต้ Espressobook พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ Harubook เพื่อตอบโจทย์นักเขียนที่ฝันจะเห็นงานเขียนของตัวเองปรากฏโฉมออกมาเป็นรูปเล่มหนังสือ
แอปนี้ช่วยให้เจ้าของผลงานไม่ต้องเสียเวลายุ่งยากไปกับการนำผลงานเสนอให้สำนักพิมพ์ การพิจารณาโดยบรรณาธิการ รวมไปถึงขั้นตอนการตรวจต้นฉบับ จัดหน้า ออกแบบปก จัดพิมพ์ และเข้าเล่ม ซึ่งเป็นงานละเอียดจุกจิกที่ใช้แรงกายแรงใจมหาศาล กว่าที่หนังสือสักเล่มจะออกมาสู่สายตานักอ่าน
Harubook เป็นแพลตฟอร์มช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนทั่วไปที่อยากมีผลงานหนังสือของตัวเอง โดยสามารถเขียนต้นฉบับลงในแอป Harubook บนมือถือ ซึ่งจะมีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ให้ผู้ใช้เลือกออกแบบหรือปรับแต่งหนังสือของตัวเองได้ตามใจชอบ เช่น ชนิดและขนาดฟอนต์ การใส่รูปประกอบหรือภาพถ่าย การเพิ่มแบกกราวนด์ เมื่อเสร็จเรียบร้อยก็สามารถสั่งพิมพ์หนังสือผ่านทางแอปได้เลย ต้นทุนราคาในการพิมพ์หนังสือ 1 เล่มประมาณ 8,000–35,000 วอน หรือราว 220 – 940 บาท ขึ้นอยู่กับจำนวนหน้า สูงสุดไม่เกิน 365 หน้า
ที่ผ่านมา มีหนังสือที่ตีพิมพ์ผ่านแอป Harubook หลากหลายแนว อาทิ บันทึกไดอารีการเลี้ยงลูก นิยาย หรือแม้แต่เรื่องราวในวงการเค-ป๊อป ความนิยมจัดพิมพ์ด้วยวิธีนี้ยังแพร่หลายไปตามโรงเรียนด้วย เช่น ในวิชาการเขียน ซึ่งครูมักจะมอบหมายงานให้นักเรียนเขียนหนังสือคนละเล่ม หรือชมรมหนังสือ มักจัดกิจกรรมให้สมาชิกนำผลงานการเขียนของตนมาจัดแสดงในนิทรรศการของชมรม แอปนี้จึงช่วยให้ผู้เรียนหรือนักเขียนสมัครเล่นสามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นรูปเล่มได้ตามที่ต้องการ
ฮวาง ซาง-ชุล ซีอีโอของ Espressobook พูดถึงแรงบันดาลใจในการทำแอป Harubook ว่า “ในฐานะที่เคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับไอทีและนำต้นฉบับเข้าสู่ระบบสำนักพิมพ์ ผมพบว่าสำนักพิมพ์มักจะขอให้ปรับแก้เนื้อหาและเขียนเรื่องที่ดึงดูดผู้อ่านมากขึ้น ภาวะแบบนี้เกิดขึ้นจนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่หนังสือเล่มล่าสุดที่ผมกำลังเขียนอยู่ ผมตัดสินใจจะไม่พิมพ์ผ่านสำนักพิมพ์ ไม่เช่นนั้นเนื้อหามันคงผิดเพี้ยนไปจากสิ่งที่ตั้งใจเขียนไว้ตั้งแต่แรกแน่ๆ …
“ในวงการอีบุ๊กก็มีอุปสรรคไปต่างกัน คนที่จะผลิตงานเป็นอีบุ๊กได้ต้องเป็นคนที่เขียนงานอย่างสม่ำเสมอหรือเป็นนักเขียนที่มีประสบการณ์มาก่อน และตราบใดที่ยังคงเป็นระบบสำนักพิมพ์ ผลงานของคุณก็มักจะถูกแทรกแซงจากกองบรรณาธิการอยู่ดี… ผมจึงพัฒนา Harubook เพื่อที่จะทลายกำแพงเหล่านี้”
บริษัท Espressobook ก่อตั้งเมื่อปี 2017 เปิดตัวแอปพลิเคชัน Harubook เป็นแพลตฟอร์มที่เปิดช่องให้กับนักเขียนสมัครเล่นสามารถตีพิมพ์หนังสือเล่มได้ แม้ว่าจะมียอดพิมพ์เพียงแค่เล่มเดียว ผู้ใช้แอปมีหน้าที่เพียงแค่เขียนต้นฉบับให้สมบูรณ์ ออกแบบได้เองตามฟีเจอร์ที่มีให้เลือก ส่วนกระบวนการที่เหลือ เช่น การแปลงไฟล์ หรือกระบวนการจัดพิมพ์ทุกขั้นตอน ทางแพลตฟอร์มจะเป็นผู้จัดการดูแลให้ทั้งหมด ทำหน้าที่เสมือนเป็นสำนักพิมพ์และโรงพิมพ์ โดยที่ไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับเนื้อหาต้นฉบับของผู้เขียนแต่อย่างใด
ในปี 2018 Harubook เคยจัดกิจกรรมโปรโมตแอปในงานเทศกาลหนังสือนานาชาติกรุงโซล ด้วยการจัดพิมพ์หนังสือฟรีให้กับนักเขียนวัยรุ่นที่ผ่านการคัดเลือกจำนวน 100 คน คนละเล่ม แต่หลายคนต้องการพิมพ์เพิ่มเพื่อนำไปแบ่งปันให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ ทำให้เกิดกระแสและมีการบอกต่อ จนบริษัทถึงกับสามารถทำกำไรได้เป็นครั้งแรกในปีถัดมา
ฮวางเชื่อว่าแนวคิดการทำหนังสือเป็นสิ่งสากล ในปี 2019 เขาจึงนำแอป Harubook ไปอวดชาวต่างประเทศ โดยร่วมออกบูธในงานเทศกาลหนังสือแฟรงเฟิร์ต ประเทศเยอรมนี และได้รับเสียงตอบรับในเชิงบวก ขณะที่ผู้จัดงานเทศกาลหนังสือไต้หวันก็ให้ความสนใจและทาบทามให้ฮวางนำแอปไปออกบูธจัดแสดง แต่ต้องยกเลิกไปเนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด
ที่มา
บทความ “[Herald Interview] All it takes is a page a day” จาก koreaherald.com (Online)
