หากเปรียบห้องสมุดเป็นองค์กร เราจะสามารถวัดหรือประเมินได้อย่างไรว่าห้องสมุดแต่ละแห่งประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน มีอิทธิพลต่อผู้คนและชุมชนอย่างไร
ถ้าใช้หลักการแบบเดิมๆ ที่ทำกันมา คือการไปไล่ดูสถิติต่างๆ ว่าเป็นอย่างไร ตั้งแต่การเข้าใช้บริการ ตัวเลขการยืมคืนหนังสือ หรือยอดดาวน์โหลดทรัพยากรอิเล็กทรอนิกส์
คำถามที่น่าสนใจคือ วิธีประเมินแบบดังกล่าวนั้นนำไปสู่อะไร ช่วยยกระดับการดำเนินงานของห้องสมุดในฐานะพื้นที่เชิงวัฒนธรรมได้จริงหรือไม่
ในมุมมองของคริสเตียน เลาเออร์เซน (Christian Lauersen) ผู้อำนวยการห้องสมุดและศูนย์บริการประชาชนแห่งเทศบาลรอสกิลด์ ประเทศเดนมาร์ก หนึ่งในแขกรับเชิญของงาน TK Forum 2021 มองว่าสถิติตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานห้องสมุดก็จริง แต่มิได้สะท้อนถึงคุณค่าและอิทธิพลทางสังคมของห้องสมุดเท่าใดนัก
เขาตั้งข้อสังเกตไว้ในบทความ A new language for the value and impact of libraries: Design and first findings ว่าการประเมินคุณค่าห้องสมุดภายใต้กรอบการบริหารงานภาครัฐแนวใหม่ (New Public Management) ที่มักจะอ้างอิงจากตัวเลขสถิติเป็นหลัก เป็นการลดทอนความสำคัญของห้องสมุดที่มีต่อชุมชนและวิถีชีวิตของประชาชนลงไป เพราะข้อมูลเชิงปริมาณเหล่านั้นไม่อาจบอกเล่าบทบาทของห้องสมุดในฐานะที่เป็นแหล่งความรู้ที่น่าเชื่อถือ หรือการเสริมสร้างชุมชนให้เข้มแข็งในแง่ของการเป็นพื้นที่สาธารณะที่เปิดกว้างกับคนทุกชนชั้น ทุกเพศทุกวัย
สร้างความหมายใหม่แก่ห้องสมุด พลิกมุมมองการวิจัยด้วยโมเดล ‘มิติวัฒนธรรมทั้งสี่’
ในเมื่อการประเมินแบบเก่าไม่ได้ผล แล้วเราควรใช้การประเมินแบบไหน คริสเตียนชี้ว่าสิ่งที่เราต้องมีนอกจากตัวเลขหรือสถิติทั้งหลาย คือการหาข้อมูลเชิงลึกเพื่อทำความเข้าใจว่าตัวเลขเหล่านั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร แล้วนั่นจะเป็นประตูสู่การถกเถียงใหม่ๆ ว่าสุดท้ายแล้วความสำคัญของห้องสมุดคืออะไร และจะอยู่รอดได้อย่างไรท่ามกลางความเปลี่ยนแปลง
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่หอสมุดกลางแห่งเมืองรอสกิลด์ (Roskilde Central Library) ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา ไซส์โมเนาท์ (Seismonaut) ได้ออกแบบแนวทางการวิจัยห้องสมุด โดยนำงานค้นคว้าเรื่อง ความรู้ความเข้าใจในคุณค่าและผลกระทบของประสบการณ์ทางวัฒนธรรม ของสภาศิลปะแห่งชาติ ประเทศอังกฤษ (The Arts Council England) มาพัฒนาต่อยอด และประยุกต์ใช้ให้เข้ากับบริบทของห้องสมุดเดนมาร์ก มีการศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบด้านการรับรู้คุณค่าของโครงการทางวัฒนธรรมจำนวน 50 โครงการ และกลั่นกรองข้อมูลจนกลายเป็นโมเดลที่เรียกว่า ‘มิติวัฒนธรรมทั้งสี่’ (4 Dimensions of Culture) โดยมีรายละเอียดเบื้องต้นดังนี้
มิติวัฒนธรรมทั้งสี่ที่เป็นรากฐานในการศึกษาคุณค่าและผลกระทบของศิลปวัฒนธรรม ได้แก่:
- มิติทางอารมณ์: กระตุ้นความรู้สึกและความคิด
- มิติทางปัญญา: สร้างการสนทนาและการสะท้อนความคิด
- มิติการสร้างสรรค์: เป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์
- มิติทางสังคม: ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาตัวเอง สร้างความกลมเกลียวในชุมชน
ในขอบเขตความหมายของมิติวัฒนธรรมทั้งสี่ ประกอบด้วยตัวแปร 12 ชนิดที่กระจายตัวเท่าๆ กันหมวดละ 3 ชนิด เป้าหมายของการสร้างขอบเขตความหมายนี้ก็เพื่อสื่อสารข้อค้นพบและความเข้าใจเกี่ยวกับคุณค่าและผลกระทบของห้องสมุดประชาชนให้เห็นภาพชัดเจน ตัวแปร 12 ชนิด ได้แก่:
- มิติทางอารมณ์: 1) การมีสมาธิจดจ่อ 2) ความพึงพอใจ 3) สุขภาวะ
- มิติทางปัญญา: 4) อาหารสมอง 5) ความรู้และข้อมูล 6) การคิดเชิงวิพากษ์
- มิติการสร้างสรรค์: 7) จินตนาการ 8) ทักษะใหม่ 9) แรงบันดาลใจ
- มิติทางสังคม: 10) ความเข้าอกเข้าใจ 11) ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน 12) การสนทนา
ข้อค้นพบที่น่าประทับใจ ห้องสมุดเป็นได้มากกว่าที่คุณคิด
ในการศึกษาเชิงประจักษ์ของงานวิจัยชิ้นนี้ ได้มีการทำแบบสอบถามตัวแทนประชากรชาวเดนมาร์ก อายุ 16-90 ปี จำนวน 1,509 คน คำถามได้ถูกออกแบบให้มีเนื้อหาครอบคลุม 4 หมวดหลักเกี่ยวกับห้องสมุดประชาชน ได้แก่ ทรัพยากร การจัดรายการ พื้นที่กายภาพ และการให้คำแนะนำจากเจ้าหน้าที่
ผู้เข้าร่วมการวิจัยจะต้องประเมินประสบการณ์ในการใช้บริการหมวดต่างๆ โดยแบ่งเกณฑ์การให้คะแนนจากสูงสุด (5) ไล่ไปจนถึงต่ำสุด (1) ผลลัพธ์ที่ได้คือ ค่าเฉลี่ยผลกระทบโดยรวมของห้องสมุดที่มีต่อประชาชนอยู่ที่ 3.2 (มีผลกระทบในระดับปานกลาง)

Photo: The Library Lab
นอกจากนี้ คณะวิจัยได้ทำการศึกษาข้อมูลทั้งในเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ จากการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับคุณค่าและผลกระทบของห้องสมุดประชาชน ได้ข้อค้นพบสำคัญในแง่มุมต่างๆ ดังนี้
1. ห้องสมุดประชาชนเป็นแหล่งพักพิง
ห้องสมุดประชาชนมีความสำคัญอย่างมากต่อชาวเดนมาร์กในฐานะ แหล่งพักพิง เป็นพื้นที่ที่ประชาชนสามารถใช้ผ่อนคลายจากชีวิตประจำวัน ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง มีบรรยากาศดี เหมาะแก่การใช้สมาธิ และช่วยสร้างแรงบันดาลใจ
ประชาชนกลุ่มต่างๆ ใช้ประโยชน์จากที่พักพิงแห่งนี้แตกต่างกันไป บางคนชื่นชอบบรรยากาศเงียบสงบเหมาะแก่การใช้สมาธิ ขณะที่บางคนชื่นชอบการเป็นพื้นที่พบปะสังสรรค์
หนึ่งในผู้เข้าร่วมการวิจัย หญิงสาววัย 26 ปี กล่าวว่า
“ห้องสมุดคือทุกสิ่งทุกอย่าง มันเป็นแหล่งรวมผู้คน เป็นแหล่งพักพิง เป็นที่พำนักสำหรับประชาชน เป็นแหล่งเข้าถึงความรู้และกิจกรรมทางวัฒนธรรมที่เปิดกว้างและให้บริการฟรี”
2. ห้องสมุดประชาชนกระตุ้นให้เกิดการสะท้อนความคิดและการคิดเชิงวิพากษ์
ห้องสมุดประชาชนกระตุ้นให้เกิดการสะท้อนความคิด การเรียนรู้ การเข้าถึงความรู้ และการคิดเชิงวิพากษ์ ในยุคดิจิทัลที่อินเทอร์เน็ตเต็มไปด้วยข้อมูลทั้งจริงและเท็จ ห้องสมุดมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อชาวเดนมาร์กในฐานะสถานที่จัดเก็บและให้บริการข้อมูล
ชายวัย 39 ปี กล่าวว่า
“ในโลกอินเทอร์เน็ต คุณไม่รู้ว่าจะเริ่มอ่านจากตรงไหนดี? ข้อมูลตรงไหนถูกแก้ไขไปหรือเปล่า? อะไรที่มีมูลเชื่อถือได้? แต่ที่ห้องสมุดคุณรู้ว่าคุณจะได้พบกับข้อมูลที่ตรงประเด็นและเชื่อถือได้”
3. ห้องสมุดประชาชนเป็นที่สร้างแรงบันดาลใจ
ห้องสมุดประชาชนเป็น ที่สร้างแรงบันดาลใจ ที่ช่วยกระตุ้นจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของชาวเดนมาร์ก ห้องสมุดช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ประชาชนได้ทดลองทำสิ่งใหม่ๆ และเพิ่มพูนทักษะใหม่ๆ ผู้ที่ใช้ทรัพยากรห้องสมุดเป็นประจำให้คะแนนตัวแปรข้อนี้ (ข้อ 9. แรงบันดาลใจ) สูงเป็นอันดับต้นๆ
เด็กผู้หญิงวัย 13 ปี กล่าวว่า
“คุณรู้สึกอยากอ่านหนังสือขึ้นมาทันทีเมื่อตัวคุณรายล้อมไปด้วยหนังสือมากมาย”
4. ห้องสมุดประชาชนช่วยเสริมสร้างชุมชนเข้มแข็ง
ห้องสมุดประชาชน ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน ทั้งในทางตรง ในแง่ของการเป็นสถานที่ที่ชาวเดนมาร์กมาพบปะ ใช้เวลาร่วมกัน และสร้างความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และในทางอ้อม ผ่านการที่ชาวเดนมาร์กได้สัมผัสห้องสมุดในฐานะทรัพย์สินส่วนรวม ห้องสมุดเป็นที่ที่เราได้เรียนรู้การดูแลรักษาชุมชนทั้งในเชิงรูปธรรมและในเชิงวัตถุ ผ่านการแบ่งปันและการดูแลรักษา วัสดุสารนิเทศที่เราหยิบยืมมา หนังสือพิมพ์ที่เราอ่าน และสถานที่ที่เราใช้งาน
ชายวัย 39 ปี กล่าวว่า
“ห้องสมุดเป็นที่ที่คุณสามารถเดินทางมาโดยลำพังแล้วรู้สึกว่าคุณเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน แม้ว่าคุณจะมาคนเดียวแต่ก็รายล้อมด้วยผู้คน และสิ่งนั้นมีความหมายกับผมมากๆ”
โดยสรุป พื้นที่สาธารณะอย่างห้องสมุด ไม่ได้เป็นแค่สถานที่เท่านั้น แต่เป็นส่วนสำคัญในโครงสร้างพื้นฐานทางสังคม เป็นคลังความรู้ และแหล่งพักพิง มีผลกระทบต่อประชาชนทั้งในด้านการกระทำและอารมณ์ และมีพลังในการเชื่อมโยงชุมชนสอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้ใช้ห้องสมุดชาวเดนมาร์กรายหนึ่งที่ว่า
“ในห้องสมุดมีผู้คนหลากหลายที่มีใจตรงกัน มาใช้หนังสือร่วมกัน ใช้พื้นที่ร่วมกัน พื้นที่นี้หลอมรวมชุมชน”
นี่เป็นเพียงการค้นพบเบื้องต้นจากงานวิจัยชิ้นล่าสุดเกี่ยวกับห้องสมุดของ คริสเตียน เลาเออร์เซน เท่านั้น รายงานฉบับสมบูรณ์ในหัวข้อคุณค่าและผลกระทบของห้องสมุดจะถูกเผยแพร่ภายในปี 2021 ซึ่งจะมีองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการห้องสมุด เช่น แนวปฏิบัติที่ดี ระเบียบวิธี และการออกแบบโครงการ โดยคริสเตียนคาดหวังว่า บุคลากรห้องสมุดที่อื่นๆ จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ และมีส่วนร่วมในการสร้างคุณค่าและความหมายใหม่ให้แก่ห้องสมุด
ที่มา
Christian Lauersen. A new language for the value and impact of libraries: Design and first findings. 2020. [Online]
Cover Photo Roskilde Libraries