วีดิทัศน์ เรื่อง “Deep Human Resilience – the Skills and Mindsets We Need to Succeed in an Era of Change” บรรยายโดย โดย คริสตัล ลิม-แลงจ์ (Crystal Lim-Lange) อดีตผู้อำนวยการ NUS Centre for Future-ready Graduates มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) และผู้ก่อตั้งบริษัท Forest Wolf ประเทศสิงคโปร์ บันทึกในโอกาสการประชุม TK Forum 2021 หัวข้อ “Library and Public Space for Learning”
สภาเศรษฐกิจโลกคาดว่าภายในปี 2565 งานอย่างน้อย 75 ล้านตำแหน่งจะถูกแทนที่ด้วยจักรกลอัตโนมัติ ในขณะเดียวกันตำแหน่งงานใหม่ๆ ก็จะถูกสร้างขึ้นมาด้วย และบริษัทใหญ่ๆ ที่คนหนุ่มสาวมองว่ามั่นคงและอยากเข้าทำงานจะหายไปราว 40% ภายในปี 2568
ทักษะที่หุ่นยนต์สามารถทำแทนได้ จะไม่ถือว่ามีคุณค่าอีกต่อไปในที่ทำงาน ทักษะเหล่านี้มักเกี่ยวกับความจำ การอ่าน การเขียน และคณิตศาสตร์ ส่วนสิ่งที่ทำให้มนุษย์ต่างจากหุ่นยนต์เรียกว่า “ทักษะขั้นสูง” ที่เกี่ยวข้องกับความฉลาดทางอารมณ์และการคิดเชิงวิพากษ์ ซึ่งอยู่เหนือกาลเวลาและยังเป็นที่ต้องการอยู่เสมอไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน ได้แก่
1) การมีสมาธิจดจ่อและรู้ลึก (Focus & Insight)
2) การตระหนักรู้ในตนเอง (Self-Awareness)
3) ความเห็นอกเห็นใจและเมตตากรุณา (Empathy & Compassion)
4) การสื่อสารในระดับที่ซับซ้อน (Complex Communication)
5) ความเข้มแข็งทางใจ ความไม่ย่อท้อ (Adaptive Resilience)
ทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญทั้ง 5 ทักษะ เปรียบเหมือนยอดของภูเขาน้ำแข็งที่ปรากฏให้เห็นเด่นชัด การพัฒนามนุษย์ยังมีองค์ประกอบด้านอื่นๆ ที่ไม่ควรมองข้าม ส่วนที่ใหญ่ที่สุดของภูเขาน้ำแข็งที่มีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก เป็นเรื่องของตัวตน (identity) ซึ่งคนคนนั้นมองหรือมีความเชื่อเกี่ยวกับตัวเอง
นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการเปลี่ยนแปลงกรอบคิด (mindshift) โดยเปลี่ยนจาก ‘กลัวความล้มเหลว’ ให้กลายเป็น ‘กรอบคิดแบบเติบโต’ (growth mindset) 2) เปลี่ยนจาก ‘การวางแผนที่ชัดเจนตายตัว’ ให้กลายเป็น ‘ปรับเปลี่ยนให้เร็วและกล้าลองไอเดียใหม่ๆ’ และ เปลี่ยนจาก ‘เริ่มต้นด้วยเหตุผล’ ให้กลายเป็น ‘เริ่มต้นด้วยความเห็นอกเห็นใจ’