The Lantern คือท่าเรือแห่งใหม่ในเมืองเอสบีเยร์ (Esbjerg) ประเทศเดนมาร์ก ที่เพิ่งจะก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อไม่นาน ความน่าสนใจคือนอกจากจะเป็นสถานีเทียบท่าให้เรือได้จอดพักแล้ว ที่นี่ยังมีฟังก์ชันอื่นๆ เช่น พื้นที่จัดเวิร์กชอปเกี่ยวกับเรือ ศูนย์กีฬาทางน้ำ ไปจนถึงศูนย์การเรียนรู้เรื่องการเดินทะเล
การสร้างท่าเรือแห่งนี้เริ่มต้นขึ้นในปี ค.ศ. 2019 เมื่อเมืองเอสบีเยร์ได้จัดประกวดออกแบบท่าเรือที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการพัฒนาเมือง ท่ามกลางดีไซน์ต่างๆ ที่ส่งมาจากทีมนักออกแบบทั่วทุกมุมโลก ไอเดียที่ได้รับคะแนนนิยมอันดับหนึ่งและคว้าชัยชนะในการประกวดครั้งนี้ ตกเป็นของ WERK arkitekter และ Snøhetta สองสตูดิโอออกแบบจากเดนมาร์กและนอร์เวย์
แนวคิดในการออกแบบคือ ‘เรขาคณิตและศิลปะแห่งการต่อเรือ’ (Geometry and Craftmanship of Boats) ด้วยหวังให้อาคารหลังนี้แตกต่างไปจากอาคารอื่นๆ ในเมือง
“ในแง่หนึ่ง เราออกแบบท่าเรือแบบนี้เพราะอยากแสดงความเคารพต่อภูมิปัญญาเรื่องการเดินทะเลของชุมชน แต่ในขณะเดียวกัน เราก็ตั้งใจจะให้อาคารหลังนี้เป็นพื้นที่ซึ่งมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และให้ความรู้สึกที่โดดเด่น”
ทีมออกแบบได้ตั้งชื่อให้กับอาคารแห่งนี้ว่า ‘The Lantern’ (โคมไฟ) เพราะในเวลาที่ดวงอาทิตย์ตก ดวงไฟภายในท่าเรือแห่งนี้ก็จะส่องสว่าง เปล่งแสงเหลืองนวลผ่านหน้าต่าง ประหนึ่งว่าเป็นโคมไฟหรือประภาคารที่คอยนำทางให้บรรดานักเดินเรือสามารถกลับสู่ฝั่งได้อย่างปลอดภัย
แม้จะฟังดูเหมือนว่า The Lantern จะโดดเด่นแตกต่างจากอาคารอื่นๆ ในบริเวณใกล้เคียง แต่ความจริงแล้วบริษัทออกแบบปรารถนาให้ The Lantern ผสานเป็นเนื้อเดียวกันกับชุมชนรอบข้างให้ได้มากที่สุด รวมถึงการออกแบบสถาปัตยกรรมที่หยิบความรู้เรื่องการเดินเรือมาเป็นหัวใจ
The Lantern เปิดกว้างจากทุกทิศทาง ไม่ใช่เพียงแค่หน้าต่างที่เรียงรายรอบอาคารทรงกลม เผยให้เห็นภายในอย่างไม่มีปิดบังเท่านั้น แต่สองสตูดิโอยังออกแบบให้มีประตูทางเข้ารอบด้าน เพื่อเปิดต้อนรับผู้เยี่ยมชมรอบทิศ
ที่บริเวณชั้นบนของ The Lantern มีห้องต่างๆ ที่เตรียมไว้สำหรับถ่ายทอดความรู้เรื่องการเดินทะเล ไปจนถึงฝึกสอนกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ห้องพายเรือ ห้องคายัก ห้องดำน้ำ และห้องไตรกีฬา หากเดินลงมาที่ชั้นล่าง คุณก็จะได้พบกับโรงพักเรือขนาดมหึมา ที่เตรียมไว้รองรับบรรดานักเดินเรือ จากทั่วสารทิศที่อาจแวะเวียนมายังเมืองเอสบีเยร์
โธมัส ค็อก (Thosmas Kock) ครีเอทีฟไดเรกเตอร์ของ WERK Arkitekter เล่าว่า “พวกเราอยากจะออกแบบอาคารหลังนี้เพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่จะช่วยดึงดูดผู้คนมาสู่ฝั่งตะวันตกของเดนมาร์กมากขึ้น ซึ่งเราก็หวังว่า The Lantern จะเป็นคำตอบหนึ่งที่ช่วยแนะนำนักท่องเที่ยวให้รู้จักเมืองแห่งนี้”
แม้ว่าในช่วงเวลาที่เอสบีเยร์เปลี่ยนผ่านจากเมืองเล็กๆ มาสู่เมืองท่าสำคัญของเดนมาร์ก จำนวนประชากรในเมืองนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่า เมื่อมีท่าเรือแห่งใหม่ๆ เกิดขึ้น ชาวประมงและนักเดินเรือก็มีตัวเลือกมากขึ้นด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ความคึกคักของเมืองท่าแห่งนี้หดหายลงไปบ้างเมื่อเทียบกับในอดีต
The Lantern คือโครงการสำคัญที่ถูกคาดหวังว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักเดินเรือบางส่วนให้หันกลับมาสนใจเมืองเอสบีเยร์อีกครั้ง และยังแสดงถึงความพยายามที่จะฟื้นฟูอัตลักษณ์ของเมืองกับชุมชนในปัจจุบัน อีกทั้งสะท้อนให้เห็นว่า ผู้คนกับผืนน้ำเชื่อมโยงกันอย่างไร
ในขณะเดียวกัน The Lantern อาจช่วยกระตุ้นสำนึกในถิ่นที่ของคนในชุมชน ให้กลับมาชัดเจนอีกครั้ง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และองค์ความรู้เกี่ยวกับการเดินทะเลจะยังคงได้รับความสำคัญ รับรู้ และถ่ายทอดไปสู่คนรุ่นต่อไป
ที่มา
บทความ “‘the lantern’ maritime center by WERK arkitekter & snøhetta lights up the danish west coast” จาก designboom.com (Online)
บทความ “Snøhetta and WERK Arkitekter’s New Maritime Center in Esbjerg, Denmark, Opens to the Public” จาก archdaily.com (Online)
บทความ “Snøhetta and WERK Arkitekter model Lanternen maritime centre on “craftmanship of boats”” จาก dezeen.com (Online)