ประเทศในทวีปยุโรปกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาและความท้าทายหลายด้าน ทั้งทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ฝังรากลึกลงไปจนถึงระดับชุมชน ซึ่งการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นเหล่านั้นจำเป็นต้องอาศัย ‘พื้นที่ปลอดภัย’ ที่ประชาชนสามารถมารวมตัวกันเพื่อพูดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะ และเชื่อมสัมพันธ์กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคมในท้องถิ่น มูลนิธิวัฒนธรรมยุโรป (The European Cultural Foundation) จึงเล็งเห็นว่าห้องสมุดคือพื้นที่และเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการเรื่องนี้ เพราะในยุโรปมีจำนวนห้องสมุดมากถึง 65,000 แห่ง และมีผู้ใช้งานถึง 100 ล้านคนต่อปี
ดังที่ อังเดร วิลเคนส์ (André Wilkens) ผู้อำนวยการ The European Cultural Foundation เคยกล่าวถึงบทบาทของห้องสมุดไว้ว่า “ห้องสมุดไม่ได้เป็นแค่สถานที่เก็บหนังสือ แต่เป็นเหมือนเส้นเลือดที่คอยหล่อเลี้ยงชุมชนต่างๆ ในยุโรป เป็นพื้นที่ปลอดภัย พื้นที่สร้างเสริมการเรียนรู้ ต่อสู้กับความไม่เท่าเทียมกันในสังคม และช่วยให้ชุมชนปรับตัวต่อปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น…”
ภายใต้ความร่วมมือจากหลายภาคส่วนในความพยายามที่ต้องการแก้ไขปัญหา โครงการ The Europe Challenge จึงเกิดขึ้นในปี 2020 นำโดย The European Cultural Foundation ร่วมกับองค์กรพันธมิตรต่างๆ เช่น ห้องสมุด Dokk1 (เดนมาร์ก) ห้องสมุด OBA (เนเธอร์แลนด์) และองค์กร Public Libraries 2030 อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากหน่วยงานทางวัฒนธรรมในยุโรปหลายแห่ง เพื่อส่งเสริมให้ห้องสมุดจับมือกับชุมชน ระดมสมอง ทดลองแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปขยายผลเป็นตัวอย่างให้กับห้องสมุดอื่นๆ ด้วยหวังว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ชุมชนและห้องสมุดร่วมกันนำพาสังคมไปสู่จุดที่ดีขึ้น เกิด ‘เครือข่าย’ ความร่วมมือที่เข้มแข็ง ไม่ว่าจะเป็นห้องสมุดที่ถึงพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในเมืองใหญ่ หรือห้องสมุดชั่วคราวขนาดเล็กในชนบท
“…ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ห้องสมุดในยุโรปหลายแห่งต้องเจอกับปัญหามากมาย บ้างต้องปิดตัวลง หลายแห่งกำลังเผชิญกับข้อจำกัดในการทำงาน The Europe Challenge คือโครงการที่จะทำให้ห้องสมุดกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง” วิลเคนส์ เชื่ออย่างนั้น
ในแต่ละปี The Europe Challenge จะเปิดรับสมัครตัวแทนห้องสมุดและชุมชนให้ตั้งทีมงานขึ้นมาเพื่อร่วมแก้ไขปัญหา ห้องสมุดใดที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมโครงการ มีสิทธิจะได้รับทุนสนับสนุนจำนวน 10,000 ยูโร หลังจากนั้นทีมงานจะทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงคอยจัดเวิร์กชอปและให้คำปรึกษาว่าควรจะดำเนินงานอย่างไร นอกจากนั้นผู้เข้าร่วมยังมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับห้องสมุดอื่นๆ รวมถึงโอกาสในการเดินทางไปศึกษาดูงานอีกด้วย
“ในยุโรป เรามีปัญหาสังคมที่คล้ายคลึงกันหลายประเด็น” มารี ออสเตอร์การ์ด (Marie Østergaard) ผู้อำนวยการห้องสมุดประชาชนเมืองอาร์ฮุส หนึ่งในพันธมิตรสำคัญของโครงการได้กล่าวไว้ “การมีเครือข่ายที่ทำให้ห้องสมุดต่างๆ มาร่วมกันคิดหาทางออกและร่วมเผชิญความท้าทายเป็นเรื่องสำคัญ”
และออสเตอร์การ์ด ก็เน้นย้ำว่า “โครงการ The Europe Challenge ให้ความสำคัญกับความเป็นประชาธิปไตย เราต้องร่วมมือกันทำให้ประชาธิปไตยในยุโรปเข้มแข็ง”
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าโครงการที่ส่งเข้ามาจะต้องเกี่ยวข้องกับการเมืองการปกครองเท่านั้น ความเป็น ‘ประชาธิปไตย’ ในมุมมองของโครงการยังหมายถึงประเด็นอื่นๆ ด้วย เช่น การสร้างความเป็นหนึ่งเดียวทางสังคม สิทธิในการเข้าถึงสุขภาวะที่ดี ความเท่าเทียมในการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ ทั้งความรู้ โอกาสทางเศรษฐกิจ การเสริมสร้างประชากรตื่นรู้ (Active Citizen) การให้ความดูแลผู้ลี้ภัยจากสงคราม เป็นต้น
ห้องสมุดและชุมชนที่เข้าร่วมโครงการเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ ในครั้งแรกปี 2021-2022 มีห้องสมุดเพียง 7 แห่ง ที่สมัครเข้าร่วม ครั้งที่สองในปี 2022-2023 มีห้องสมุดเข้าร่วมเพิ่มขึ้นเป็น 32 แห่ง และในปี 2024 ซึ่งกำหนดธีมหลักคือ ‘Libraries, Communities and Democracy’ มีห้องสมุดเข้าร่วมมากถึง 55 แห่ง โดยเสียงตอบรับจากชุมชนเป็นไปในทางบวก ปัญหาในพื้นที่ได้รับการแก้ไขด้วยกระบวนการที่ประชาชนมีส่วนร่วม หลายโครงการได้รับการขยายผล เกิดเป็นเครือข่ายความร่วมมือของห้องสมุด ที่มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ให้คำแนะนำ และช่วยกันออกแบบโครงการเพื่อชุมชนในระดับที่ใหญ่ขึ้น
แต่เหนือสิ่งอื่นใด The Europe Challenge ทำให้บรรณารักษ์ และบุคลากรห้องสมุดที่เข้าร่วมโครงการรู้สึกมีคุณค่า และพร้อมจะสร้างผลงานเพื่อขับเคลื่อนสังคมต่อไป

เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนและเยาวชน
The Europe Challenge ส่งเสริมกิจกรรมที่สร้าง ‘ประชากรตื่นรู้’ หรือ Active Citizen ไม่ว่าจะเป็นด้านการมีส่วนร่วมทางการเมือง การรวมกลุ่มทำกิจกรรมตามความสนใจ การร่วมแสดงความคิดเห็นในประเด็นสังคม การเพิ่มพูนทักษะและความรู้ที่จำเป็นในการเป็นประชากรโลก รวมถึงการติดตามเทคโนโลยีและรู้เท่าทันข่าวสารข้อมูลต่างๆ
ตั้งแคมป์ยามค่ำคืนท่ามกลางชั้นหนังสือ รวมพลังเยาวชนที่ห้องสมุด |
💡โครงการ: A Night at the Library: Engaging Young People |
🏛️ห้องสมุด: Biblioteca “Luigi Einaudi” di Dogliani |
👨👩👧👦 ชุมชน: Cooperativa Caracol and the teenagers of Dogliani |
📍พื้นที่: เมือง Dogliani, อิตาลี |
ที่เมือง Dogliani ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ห้องสมุด Luigi Einaudi di Dogliani มุ่งให้บริการผู้ใช้ที่เป็นวัยผู้ใหญ่มาเป็นเวลานาน จนเยาวชนเริ่มห่างหายไปจากการใช้บริการห้องสมุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มช่วงวัย 11-14 ปี ทั้งที่เยาวชนกลุ่มนี้ก็มีความต้องการพื้นที่ที่สามารถใช้เวลากับเพื่อนๆ เพื่อทำกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ และส่งเสริมการเรียนรู้ด้านวัฒนธรรมของพื้นที่
ห้องสมุดจึงร่วมมือกับองค์กรที่ดำเนินกิจกรรมเพื่อเยาวชน จัดโปรแกรมพิเศษ ‘A Night at the Library’ หรือ ค่ำคืนในห้องสมุด เชิญชวนให้เยาวชนนำถุงนอนและไฟฉายมาใช้เวลาหนึ่งคืนท่ามกลางหนังสือกว่า 20,000 เล่ม โดยกิจกรรมนี้เริ่มต้นในเวลา 20.30 น. และแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ
Books & Fun: ประกอบด้วยเวิร์กชอป เกม และกิจกรรมต่างๆ
Book camping: อ่านหนังสือก่อนนอน และจิบชาสมุนไพร ก่อนจะนอนหลับใหลท่ามกลางชั้นหนังสือ
Book Morning: รับประทานอาหารเช้า อ่านหนังสือ พูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และพักผ่อน
หลังจากกิจกรรม A Night at the Library เยาวชนกลุ่มนี้ จะทำหน้าที่เป็นทีมงานร่วมกันออกแบบกิจกรรมสำหรับเยาวชนในเมือง เพื่อดึงดูดให้ผู้ใช้รุ่นเยาว์กลุ่มอื่นๆ เข้ามาใช้บริการ และรู้สึกเชื่อมโยงกับห้องสมุดมากขึ้น


เชื่อมสัมพันธ์ประชากรต่างวัย |
💡โครงการ: Gener-actions: intergenerational solidarit |
🏛️ห้องสมุด: Biblioteca da Penha de França |
👨👩👧👦 ชุมชน: Fazer do Bairro a Nossa Casa (Making the Neighbourhood our Home) |
📍พื้นที่: เมืองลิสบอน, โปรตุเกส |
การรวมตัวของเครือข่าย ‘Making the Neighbourhood Our Home’ ในเมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกส เกิดขึ้นในปี 2022 โดยมีสมาชิกหลักเป็นกลุ่มแม่บ้าน นักเคลื่อนไหวทางสังคม นักวิจัย มีเป้าหมายเพื่อเชื่อมโยงกลุ่มผู้สูงอายุและผู้อพยพย้ายถิ่นที่เคยถูกมองว่าเป็นประชากรที่ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับชุมชน ให้มาร่วมทำกิจกรรมกับชุมชนในฐานะประชากรตื่นรู้ หรือ Active Citizen
เครือข่ายนี้ร่วมมือกับห้องสมุด Penha de França สร้างกิจกรรมสานความสัมพันธ์ระหว่างประชากรต่างวัย โดยใช้ห้องสมุดเป็นพื้นที่เชื่อมโยงให้ผู้สูงอายุและเยาวชนมาพบปะกัน เริ่มด้วยการก่อตั้ง ‘Citizen Labs’ ที่คนในชุมชนสามารถมาพบปะ พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับศิลปิน ศูนย์ดูแลเด็ก หน่วยงานท้องถิ่น พื้นที่สร้างสรรค์ ฯลฯ ว่าควรจะใช้กิจกรรมสร้างสรรค์ หรือกิจกรรมทางวัฒนธรรมแบบใดในการสร้างความรู้สึกหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในสังคม ตัวอย่างกิจกรรมที่จัดไปแล้ว เช่น การรับประทานอาหารกลางวันร่วมกัน (Community Lunch) คลาสเรียนวาดภาพที่ร้านกาแฟ และกิจกรรมสันทนาการที่ศูนย์ดูแลเด็ก

เพื่อนหญิง พลังหญิง ส่งเสริมเติมทักษะด้าน STEM |
💡โครงการ: Technophobia is not for women |
🏛️ห้องสมุด: Kranj City Library |
👨👩👧👦 ชุมชน: Local community |
📍พื้นที่: เมือง Kranj, สโลวีเนีย |
สังคมสโลวีเนียมีจำนวนนักวิทยาศาสตร์หรือผู้ประกอบอาชีพในสาย STEM เพศชายมากกว่าเพศหญิงอย่างมีนัยสำคัญ ห้องสมุดเมือง Kranj จึงจัดกิจกรรม ‘Living Library’ เชิญชวนนักวิทยาศาสตร์หญิงที่ประสบความสำเร็จมาเป็นหนังสือมนุษย์ (Living Books) เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชน ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อทีมงานสังเกตเห็นว่า กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เช่น เวิร์กชอปหุ่นยนต์ของ LEGO มีผู้เข้าร่วมเป็นเด็กผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ จึงจัดกิจกรรมเวิร์กชอปหุ่นยนต์และการเขียนโปรแกรมสำหรับเด็กผู้หญิงโดยเฉพาะ
โปรเจกต์ในระยะแรกประสบความสำเร็จ ทางห้องสมุดจึงนำเสนอผลลัพธ์การจัดกิจกรรมในวงกว้าง โดยแต่ละกิจกรรมยังช่วยสะท้อนและสร้างความตระหนักถึงข้อจำกัดหรือความยากลำบากในการทำงานในสาย STEM ของผู้หญิง เพื่อที่จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาอีกด้วย เมื่อมีเสียงตอบรับที่ดีจากหน่วยงานต่างๆ ทีมงานจึงตั้งใจจะดำเนินโครงการเพื่อส่งเสริมการเติมทักษะด้าน STEM ให้กับสตรีต่อไปเรื่อยๆ
เสริมสร้างความเท่าเทียมและความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในสังคม
หลายโครงการใน The Europe Challenge ส่งเสริมให้ห้องสมุดและชุมชนเสริมสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในสังคม ช่วยเหลือประชากรกลุ่มที่ด้อยโอกาส และจัดกิจกรรมที่ทำให้ชุมชนซึ่งประกอบด้วยประชากรหลากหลายเชื้อชาติและวัฒนธรรม ได้มีปฏิสัมพันธ์กันด้วยความเข้าใจ
สอนทักษะให้กับผู้ด้อยโอกาส |
💡โครงการ: Tales from the Street |
🏛️ห้องสมุด: Dokk1 |
👨👩👧👦 ชุมชน: Værestedet drop-in centre and local community |
📍พื้นที่: เมืองอาร์ฮุส, เดนมาร์ก |
ในเมืองอาร์ฮุส ใกล้กับห้องสมุด Dokk1 มีศูนย์บริการชุมชนที่เรียกว่า Værestedet คอยทำหน้าที่ดูแลผู้ด้อยโอกาสทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นคนไร้บ้าน ผู้ประสบปัญหาด้านสุขภาพจิต และผู้ที่เคยข้องเกี่ยวกับยาเสพติดหรือเครื่องดื่มมึนเมามาก่อน ห้องสมุด Dokk1 และชุมชนเห็นพ้องกันว่าควรจะมีบทบาทในการช่วยเหลือหรือสร้างโอกาสด้านอาชีพ รวมถึงเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชากรกลุ่มนี้มากขึ้น จึงพัฒนาโครงการพิเศษขึ้นมา เริ่มต้นจากจ้างงานประชากรผู้ใช้บริการศูนย์บริการชุมชนให้มาร่วมออกแบบกิจกรรมกับทีมบรรณารักษ์ห้องสมุด ผลลัพธ์ที่ได้คือรายการกิจกรรมหลากหลายที่ผู้ออกแบบเล็งเห็นว่าน่าจะช่วยสร้างโอกาสให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางกลุ่มนี้
หนึ่งในกิจกรรมที่ได้จากกระบวนการออกแบบร่วมกันก็คือกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การเล่าเรื่อง และการเขียนเชิงสร้างสรรค์ สมาชิกผู้ด้อยโอกาสในสังคมหลายคนได้พัฒนาทักษะการเขียนจากการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถเล่าเรื่องราวและนำเสนอทัศนะของตนเองผ่านงานเขียน ต่อมาทีมงานจึงขยับขยายพื้นที่จัดกิจกรรมจากที่ศูนย์ฯ มาสู่ห้องสมุด Dokk1 เกิดเป็นมุมนิทรรศการนำเสนอผลงาน ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ กวี หรือบทเพลง ในอนาคตทีมงานตั้งใจจะขยายผลด้วยการร่วมทำงานกับประชากรกลุ่มเปราะบางหรือผู้ด้อยโอกาสกลุ่มอื่นๆ ในสังคมด้วย
สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้อพยพย้ายถิ่น |
💡โครงการ: Challenging stereotypes, reclaiming public spaces |
🏛️ห้องสมุด: Feminist Autonomous Centre’s Feminist Library |
👨👩👧👦 ชุมชน: MiQ community |
📍พื้นที่: กรุงเอเธนส์, กรีซ |
กิจกรรมของทีมงานเริ่มต้นจากการทำวิจัยแบบมีส่วนร่วม เพื่อร่วมกันเขียนเรื่องราวของการอพยพย้ายถิ่นในกรีซ เป้าหมายของโครงการนี้คือส่งเสริมให้ชุมชนมีทักษะในการทำกิจกรรมต่อเองได้ หลังจากนั้นก็เริ่มรับฟังเสียงจากประชากรกลุ่มต่างๆ เช่น กลุ่มผู้อพยพที่เป็น LGBTQ+ เพื่อบันทึกเรื่องราวจากอีกมุมมองหนึ่ง แก้ไขความเข้าใจผิดและอคติที่เคยเกิดขึ้นจากการเล่าต่อๆ กันมา แผนการต่อไปในอนาคตอันใกล้คือการรณรงค์สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง เด็ก และ LGBTQ+ จัดพิมพ์หนังสือ จัดงานสัมมนา เสวนา นิทรรศการ และจัดทำภาพยนตร์สารคดีเกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นของกลุ่ม LGBTQ+ อีกด้วย

เสริมสร้างสุขภาวะทางกายและจิตใจ
ด้วยความที่สังคมยุโรปตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากปัญหาด้านเศรษฐกิจ การอพยพย้ายถิ่น และการลี้ภัยสงครามมานานหลายปี ประชากรกลุ่มใหญ่ประสบภาวะตึงเครียดกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ห้องสมุดหลายแห่งที่เข้าร่วม The Europe Challenge จึงร่วมกับชุมชนและหน่วยงานพันธมิตรดำเนินโครงการที่ส่งเสริมสุขภาวะกายใจ เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชน
ถอดบทเรียนเขียนคู่มือจัดกิจกรรมสำหรับผู้ประสบปัญหาด้านสุขภาพจิต |
💡โครงการ: Libraries on prescription |
🏛️ห้องสมุด: Athens Comics Library |
👨👩👧👦 ชุมชน: Refugee Week Greece |
📍พื้นที่: กรุงเอเธนส์, กรีซ |
กรุงเอเธนส์ ประเทศกรีซ ต้องประสบกับแรงกดดันทางสังคมมายาวนานเรื้อรัง ทั้งปัญหาด้านเศรษฐกิจ การว่างงาน การอพยพย้ายถิ่นและลี้ภัยสงครามเข้ามาอาศัยในเอเธนส์ ทำให้ชุมชนเต็มไปด้วยความหลากหลายทางเชื้อชาติและวัฒนธรรม ห้องสมุดการ์ตูนเมืองเอเธนส์ร่วมกับองค์กรภาคประชาสังคม ดำเนินโครงการ ‘Libraries on Prescription’ ที่มีเป้าหมายคือออกแบบและจัดกิจกรรมต่างๆ ที่ทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกว่าห้องสมุดเป็นพื้นที่ปลอดภัย สามารถแสดงความรู้สึก แบ่งปันเรื่องราวความเครียด ความกดดัน ความเจ็บปวดจากอาการเจ็บป่วยทั้งทางร่างกายและจิตใจได้
ในระยะแรก ห้องสมุดการ์ตูนเป็นแกนนำและสร้างความร่วมมือกับห้องสมุดอีก 4 แห่ง ใช้กระบวนการมีส่วนร่วมจัดกิจกรรมเพื่อคนในชุมชนที่ประสบกับปัญหาด้านสุขภาพจิตทั้งในกลุ่มเยาวชน เด็กที่มีปัญหาด้านการเรียนรู้ ผู้สูงอายุในแถบชนบท และนักโทษในเรือนจำ โดยยึดถือหลักเกณฑ์ในการออกแบบกิจกรรม 6 ข้อคือ
- ช่วยลดระดับความวิตกกังวลและความโดดเดี่ยว
- เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการดูแลรักษาสุขภาพจิต
- เพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้นอกระบบ
- จัดหาพื้นที่สาธารณะที่สามารถทำกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาวะกายใจ
- เสริมสร้างความสัมพันธ์ในสังคม
- เป็นกิจกรรมที่กระตุ้นการรู้คิด (Cognitive Stimulation)
หลังจากนั้น ห้องสมุดนำร่องจะร่วมกันถอดบทเรียนจากกิจกรรมเป็นชุดข้อมูลแล้วพัฒนาเป็นคู่มือสำหรับดำเนินกิจกรรมเสริมสร้างสุขภาวะทางจิตใจสำหรับห้องสมุด เพื่อนำไปใช้ขยายผลกับห้องสมุดในพื้นที่ต่างๆ ในประเทศ เมื่อโครงการในระยะแรกเป็นไปด้วยดี เป้าหมายต่อมาคือการสร้างเครือข่ายห้องสมุดกว่า 30 แห่ง ทั่วประเทศ รวมพลังบรรณารักษ์ เจ้าหน้าที่ห้องสมุด และนักจิตวิทยากว่า 200 คน มาร่วมกันดำเนินโครงการที่ประยุกต์ใช้กิจกรรมทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างเสริมสุขภาวะทางจิตใจที่ดี

โครงการหนังสือทำมือสื่อความคิดสร้างสรรค์ |
💡โครงการ: Unleashing Student Creativity through Zines |
🏛️ห้องสมุด: City of Glasgow College Library Services |
👨👩👧👦 ชุมชน: Diversity & Inclusion Student team, Glasgow Zine Library, Ross Wilcock Media |
📍พื้นที่: เมืองกลาสโกว์, สกอตแลนด์ |
ห้องสมุดวิทยาลัยเมืองกลาสโกว์ทำการสำรวจข้อมูลในกลุ่มเยาวชนกว่า 27,000 คน พบว่าหลังจากช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 อันยาวนาน เยาวชนเมืองกลาสโกว์มีความต้องการทำกิจกรรม การรวมกลุ่ม และพื้นที่ปลอดภัยที่สามารถระบายความรู้สึกของตนเองได้มากเป็นพิเศษ ห้องสมุดจึงจัดเวิร์กชอปการเขียนบันทึกประจำวัน (Mindful Journaling) เพื่อเป็นเครื่องมือในการสื่อสารอารมณ์และความรู้สึก หลังจากเจอภาวะของโรคระบาด
เมื่อมีเสียงตอบรับที่ดี ห้องสมุดจึงค้นหาแนวทางหรือกิจกรรมอื่นๆ ที่จะช่วยพัฒนาเยาวชนได้มากขึ้นในด้านสุขภาพจิต และพบว่า หนังสือทำมือ หรือ Zines เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ สามารถช่วยให้ผู้เขียนได้แสดงอารมณ์ ความรู้สึก ทั้งยังกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และทักษะ DIY ได้อีกด้วย
ห้องสมุดจึงจัดกิจกรรม City Zines ที่ให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้แสดงความคิด อารมณ์ ความรู้สึก ผ่านการทำหนังสือ พร้อมกับใช้โอกาสนี้อ่านหนังสือทำมือเพื่อเรียนรู้มุมมองและทัศนคติของผู้เข้าร่วมโครงการคนอื่นๆ ด้วย มีหนังสือในโครงการนี้มากกว่า 200 เล่ม
ห้องสมุดยังจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อจัดเวิร์กชอปหนังสือทำมือ กิจกรรมเสริมสร้างจินตนาการและแรงบันดาลใจในการทำหนังสือ เป้าหมายระยะใกล้คือเพิ่มจำนวนหนังสือทำมือในคอลเลกชัน และส่งเสริมให้เยาวชนที่จัดทำหนังสือเหล่านี้เข้าร่วมกับเทศกาลหนังสือทำมือในกลาสโกว์ด้วย ส่วนเป้าหมายระยะยาวของห้องสมุด คือสร้างเครือข่ายในระดับนานาชาติ เพื่อสร้างชุมชนคนทำหนังสือในยุโรป กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนมุมมองและความคิดในกลุ่มเยาวชนจากต่างพื้นที่ สร้างเสริมความเข้าใจข้ามวัฒนธรรม
สร้างโครงการต้นแบบ ให้ความรู้เรื่องสุขภาพ |
💡โครงการ: Co-creating healthcare solutions |
🏛️ห้องสมุด: De Krook Library |
👨👩👧👦 ชุมชน: Comon and local community |
📍พื้นที่: Ghent, เบลเยียม |
โจทย์เริ่มต้นของโครงการนี้คือ “เราจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น” กลุ่ม Comon ซึ่งเป็นที่รวมตัวของนักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี และนักสร้างสรรค์ จึงร่วมมือกับเทศบาลเมืองเกนท์ มหาวิทยาลัยในพื้นที่ ศูนย์วิจัย และห้องสมุด De Krook จัดกิจกรรม ‘Make-a-thon’ หรือการระดมสมองในกลุ่มนักเรียนนักศึกษา เพื่อค้นหา ‘ต้นแบบ’ กิจกรรมดีๆ ที่สามารถให้ความรู้คนทั่วไปในเรื่องสุขภาพ ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 5 วัน ผู้เข้าร่วมโครงการใช้กระบวนการ Design Thinking สร้างต้นแบบบริการที่สามารถนำไปพัฒนาต่อได้จริง
ต้นแบบผลิตภัณฑ์ที่ได้รางวัลชนะเลิศ คือเครื่องมือที่ช่วยวัดระดับความเจ็บปวด เพื่อให้คนไข้สามารถสื่อสารกับแพทย์และพยาบาลได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าความเจ็บปวดที่กำลังเผชิญอยู่ในระดับไหน นอกจากนี้ยังมี Ringli เป็น phone-bot ที่ทำหน้าที่ติดต่อคนไข้เพื่อช่วยให้ข้อมูลด้านการเตรียมตัวก่อนพบแพทย์ และ Medi Memo เครื่องมือช่วยจดบันทึกข้อมูลจากการเข้าพบแพทย์ ซึ่ง Comon จะดำเนินการร่วมกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาต้นแบบเหล่านี้ นำไปทดลองใช้กับโรงพยาบาล ติดต่อนักลงทุน เพื่อให้ต้นแบบเหล่านี้สามารถนำไปใช้ต่อไป
การรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม
อีกหนึ่งประเด็นเร่งด่วนที่เป็นปัญหาร่วมของชาวยุโรปคือ ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ในสภาวะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงกับโลกใบนี้ แต่ละประเทศต่างพยายามที่จะดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมให้ลดการสร้างขยะ ลดการบริโภคที่เกินพอดี การให้ความสำคัญกับภาวะโลกร้อนและปัญหามลภาวะ การฟื้นฟูสภาพแวดล้อม และการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน
ลดขยะ ลดการบริโภคที่เกินพอดี ด้วยการซ่อมแซมอุปกรณ์ที่ยังใช้งานได้ |
💡โครงการ: Repairing our planet together, one object at a time |
🏛️ห้องสมุด: Biblioteca Comunale di Concesio |
👨👩👧👦 ชุมชน: Library users |
📍พื้นที่: Concesio (Brescia), อิตาลี |
ห้องสมุดประชาชน Concesio เห็นว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาร่วมที่ประชากรโลกควรให้ความสำคัญ จึงออกแบบกิจกรรมที่จะช่วยลดการสร้างขยะขึ้น โดยเรียกกิจกรรมนี้ว่า ‘Repair Cafe’ จัดขึ้นทุกๆ วันเสาร์ที่ 2 ของเดือน โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานห้องสมุดนำอุปกรณ์ในครัวเรือนใดๆ ก็ตามที่ชำรุดมาตามหาอาสาสมัครที่สามารถช่วยกันซ่อมแซมอุปกรณ์เหล่านั้นได้ โดย Repair Café นี้มีผู้เชี่ยวชาญการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ หลายประเภท เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เฟอร์นิเจอร์ไม้ ของเล่น เสื้อผ้า
ห้องสมุดคำนวณว่ากิจกรรมในแต่ละครั้งสามารถช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ให้กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง ลดปริมาณขยะได้ถึง 60 กิโลกรัมต่อครั้ง และลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะเกิดขึ้นถึง 600 กิโลกรัม นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนถ่ายทอดประสบการณ์และทักษะเชิงช่างในการซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ อีกด้วย ทีมงานมองว่าโครงการนี้สะท้อนความเป็น ‘ห้องสมุด’ ในฐานะแหล่งรวมองค์ความรู้ด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความรู้เชิงทฤษฎี หรือความรู้เชิงปฏิบัติแบบการซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน

เลี้ยงผึ้งในสวนห้องสมุด จุดเริ่มต้นของการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ |
💡โครงการ: Creating a buzz: bringing bees to libraries |
🏛️ห้องสมุด: Jordi Rubió i Balaguer Library |
👨👩👧👦 ชุมชน: Local community |
📍พื้นที่: Sant Boi de Llobregat, สเปน |
ด้วยความที่ห้องสมุดตั้งอยู่ในเขตเมือง เพียง 15 กิโลเมตรจากความวุ่นวายของสนามบินบาร์เซโลนาเท่านั้น บรรณารักษ์ห้องสมุด ชุมชน และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมต่างช่วยกันระดมความคิดว่า ควรจะทำโครงการแบบไหนที่จะช่วยคืนความสมบูรณ์ให้กับธรรมชาติได้บ้าง โครงการเลี้ยงผึ้งในสวนห้องสมุดจึงเกิดขึ้นมา เพื่อให้ผึ้งที่เลี้ยงช่วยผสมเกสรดอกไม้ คืนความหลากหลายทางชีวภาพให้กับระบบนิเวศ นำไปสู่การส่งเสริมสุขภาพและสุขภาวะของประชาชน
โครงการเลี้ยงผึ้งนำมาสู่การต่อยอดอีกมากมาย เช่น โครงการเดินสำรวจปัญหาเมือง โครงการ ‘ตลาดน้ำผึ้ง’ ที่จัดทำร่วมกับหน่วยงานด้านอาหารในท้องถิ่น และยังมีโครงการด้านศิลปะที่มีเสียงโบยบินของผึ้งในสวนเป็นแรงบันดาลใจ แผนในการขยายผล คือ ดำเนินโครงการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ เช่น ปลูกต้นไม้ ดอกไม้ เพิ่มเติมในสวนสาธารณะเพื่อกระตุ้นให้ผึ้งที่เลี้ยงไว้ผสมเกสร ขยายพื้นที่เลี้ยงผึ้ง ตั้งจุดให้บริการและให้ความรู้เกี่ยวกับผึ้ง เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับพื้นที่ธรรมชาติในเขตเมืองต่อไป
ทำอาหารแบบใหม่ ประหยัดไฟ รักษ์โลก |
💡โครงการ: Cooking Up Green Solution |
🏛️ห้องสมุด: Stornoway Library (Western Isles Libraries) |
👨👩👧👦 ชุมชน: Western Isles-wide |
📍พื้นที่: หมู่เกาะเวสเทิร์น, สกอตแลนด์ |
ปัญหาสำคัญของหมู่เกาะเวสเทิร์น (Western Isles) ทางตอนเหนือของสกอตแลนด์ คือการขาดแคลนเชื้อเพลิงและพลังงาน เมื่อบวกกับปัญหาอื่นๆ ในพื้นที่ คือเป็นสังคมผู้สูงอายุ ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยต่ำ และอากาศหนาวเย็น ประชากรของหมู่เกาะเวสเทิร์นจำนวนมาก จึงไม่มีรายได้มากพอที่จะจ่ายบิลค่าไฟในแต่ละเดือนได้ เป็นที่คาดการณ์ว่าอีกไม่นานประชากรเกินครึ่งจะไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ กลายเป็นสังคมที่ขาดแคลน ห้องสมุดกับภาคประชาชนจึงร่วมมือกันค้นหาแนวทางบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น โดยเริ่มจากกิจกรรมใกล้ตัวอย่างการทำอาหาร
ในระยะแรก ทีมงานตัดสินใจส่งเสริมการใช้ WonderBag อุปกรณ์ที่สามารถรักษาอุณหภูมิของหม้อปรุงอาหารได้นานถึง 8 ชั่วโมง โดยไม่ต้องใช้พลังงานไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ เพียงนำหม้อปรุงอาหารที่เดือดจัดมาใส่ในถุงเก็บความร้อน ก็สามารถปรุงอาหารต่อได้ ทีมงานแจกหม้อปรุงอาหาร WonderBag เทอร์โมมิเตอร์ และสูตรอาหารที่สามารถใช้กับอุปกรณ์เหล่านี้ได้ ให้กับเชฟชื่อดังในพื้นที่ และผู้ร่วมโครงการจำนวน 10 ครัวเรือน ซึ่งแต่ละครัวเรือนตั้งอยู่ในต่างพื้นที่ บุคคลกลุ่มนี้ต้องทดลองใช้ WonderBag ในการทำอาหารเป็นเวลา 1 เดือน และบันทึกวิดีโอไดอารีในระหว่างทำอาหารอย่างละเอียด ทีมงานจะนำคลิปวิดีโอเหล่านั้นมาเผยแพร่ สร้างการรับรู้ และสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ WonderBag
ห้องสมุดจะหางบประมาณมาจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม และสร้างความร่วมมือกับร้านจำหน่ายเครื่องปรุงอาหาร เพื่อจัดทำชุดเครื่องปรุงที่สามารถใช้กับ WonderBag ได้ และสนับสนุนให้ประชากรที่อาศัยบนเกาะหันมาสนใจใช้ WonderBag กันมากขึ้น เพื่อให้ชุมชนที่ขาดแคลนทั้งรายได้และเชื้อเพลิงสามารถประหยัดพลังงาน และแต่ละครัวเรือนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่อไป
ห้องสมุดจะหางบประมาณมาจัดซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติม และสร้างความร่วมมือกับร้านจำหน่ายเครื่องปรุงอาหาร เพื่อจัดทำชุดเครื่องปรุงที่สามารถใช้กับ WonderBag ได้ และสนับสนุนให้ประชากรที่อาศัยบนเกาะหันมาสนใจใช้ WonderBag กันมากขึ้น เพื่อให้ชุมชนที่ขาดแคลนทั้งรายได้และเชื้อเพลิงสามารถประหยัดพลังงาน และแต่ละครัวเรือนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่อไป
ที่มา
เว็บไซต์ The Europe Challenge (Online)
Cover Photo: Stadtbibliothek Paderborn