The KOMMON
TK Park website
No Result
View All Result
The KOMMON
TK Park website
No Result
View All Result
The KOMMON
No Result
View All Result
 
Read
Book of Commons
‘ธิดากาลิเลโอ’ ความรักทำให้โลกเคลื่อนที่
Book of Commons
  • Book of Commons

‘ธิดากาลิเลโอ’ ความรักทำให้โลกเคลื่อนที่

329 views

 5 mins

2 MINS

August 16, 2022

          “Eqppur si muove – เอปปูร์ ซิ มูโอเว” (และมันยังคงเคลื่อนที่)

          มีตำนานเล่าลือว่าปี 1633 ณ กรุงโรม กาลิเลโอ กาลิเลอี ยักษ์ใหญ่แห่งวิทยาศาสตร์ ชาวฟลอเรนซ์ กระซิบกระซาบคำนี้ขณะลุกขึ้นยืนหลังจากถูกศาลศาสนาพิพากษาว่าเขามีความผิดฐานฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และเชื่อถือกฎอันเป็นเท็จ

          กฎที่ว่าหมายถึงการค้นพบของโคเปอร์นิคัสที่ว่าพระอาทิตย์ปักหลักเป็นศูนย์กลางจักรวาลและโลกต่างหากที่เคลื่อนที่รอบพระอาทิตย์ มิใช่ในทางกลับกัน แต่ที่ประชุมใหญ่คณะนักเทววิทยา 11 คน ซึ่งแต่งตั้งจากพระผู้ใหญ่โดยพระสันตะปาปาพอลที่ 5 ลงความเห็นไว้เมื่อปี 1616 ว่าประเด็นพระอาทิตย์นั้นฝ่าฝืนบทบัญญัติในพระคัมภีร์ไบเบิล “นอกรีตอย่างเป็นทางการ” ส่วนประเด็นเกี่ยวกับโลกไม่ถึงขั้นฝ่าฝืน แต่ก็ “ย่อหย่อนศรัทธา”

          ชื่อของกาลิเลโอถูกจดจำในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองปล่อยวัตถุลงมาจากหอเอนเมืองปิซาและพื้นที่ลาดเอียง ผู้คิดค้นกล้องโทรทรรศน์ ผู้คนพบดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสบดี ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งฟิสิกส์เชิงทดลอง ยักษ์ใหญ่ที่ไอแซก นิวตันใช้เหยียบยืนบนบ่าเพื่อมองเห็นได้ไกลขึ้น คงเป็นความบังเอิญ นิวตันเกิดในปีเดียวกันกับปีที่กาลิเลโอเสียชีวิต ซึ่งก็คือปี 1642 และเรายังรู้อีกว่าในช่วงบั้นปลายชีวิต กาลิเลโอถูกกักบริเวณในบ้านจนถึงวาระสุดท้าย

          ‘ธิดากาลิเลโอ บันทึกประวัติศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์ ศรัทธา และความรัก’ (Galileo’s Daughter: A Historical Memoir of Science, Faith and Love) เขียนโดย Dava Sobel หนังสือเก่าที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยตั้งแต่ปี 2546 สารคดีเรื่องนี้ร้อยเรียงชีวประวัติของกาลิเลโอ ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเขากับลูกสาวคนโตนาม เวอร์จิเนีย ผู้คอยเป็นกำลังใจให้แก่บิดาอย่างไม่เคยขาดสาย

ธิดากาลิเลโอ บันทึกประวัติศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์ ศรัทธา และความรัก

          คุณอาจคิดว่ากาลิเลโอเป็นปฏิปักษ์กับศาสนาคริสต์ ไม่เลย ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เขาเป็นคาทอลิกที่เปี่ยมศรัทธา เขาเชื่อในพระเจ้า เขาเชื่อว่าพระเจ้าสร้างสรรค์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ พร้อมกับสร้างมนุษย์มาให้ค้นหาปริศนาในธรรมชาติ จุดนี้มิใช่สิ่งที่เหล่านักบวชผู้มีอำนาจยอมรับได้

          กาลิเลโอมีชีวิตในยุคอันปั่นป่วนของความเชื่อ ก่อนเขาเกิด 47 ปี หรือในปี 1517 มาร์ติน ลูเทอร์ นำ The 95 Theses ปิดประกาศที่หน้าโบสถ์เมืองวิตเทนเบิร์กทำให้ลูเทอร์ถูกประกาศตัดขาดจากศาสนา (Excommunication) ในอีก 3 ปีต่อมา นิกายโปรเตสแตนต์ถือกำเนิด ชักพายุโรปเข้าสู่ความขัดแย้งและเข่นฆ่าต่อเนื่องยาวนาน สงครามสามสิบปีระหว่างคาทอลิกและโปรเตสแตนต์เริ่มต้นในปี 1618 คร่าชีวิตผู้คนนับล้าน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่คริสตจักรไม่ยินยอมให้มีผู้ท้าทายความเชื่อเพิ่มขึ้นอีกแม้แต่คนเดียวหากทำได้

          ในวัยหนุ่ม กาลิเลโอมิได้เรียนจบมหาวิทยาลัย ถึงกระนั้น ด้วยความเฉลียวฉลาดและขวนขวายหาความรู้ก็ทำให้เขาได้เป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ถึงปี 1610 ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นนักคณิตศาสตร์อาวุโสและนักปรัชญาประจำราชสำนักแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี โคสิโมที่ 2

          ความโดดเด่นสร้างความริษยา ความริษยาก่อเกิดศัตรู ยามชีวิตรุ่งโรจน์ภัยพาลจากศัตรูเปรียบเหมือนหยดน้ำกระทบภูผาใหญ่ กาลิเลโอไม่เคยใส่ใจเพราะเชื่อมั่นในสติปัญญา ความรู้ การค้นพบของตนซึ่งมีหลักฐานรองรับ และความสัมพันธ์อันดีกับพระผู้ใหญ่ซึ่งรวมถึงพระคาร์ดินัล มาฟเฟโอ บาร์เบรินี ที่จะขึ้นเป็นพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ในปี 1623 มันเป็นช่วงเวลาที่เขาทุ่มเทให้กับการค้นคว้า ทดลอง ประดิษฐ์คิดสร้าง เขียนหนังสือ และโต้ตอบกับผู้คนที่ยังยึดถือความเชื่อเก่าๆ อย่างเผ็ดร้อน

          ในยุคนั้น คำสอนของอริสโตเติลและปโตเลมี ยังมีอิทธิพล โลกคือศูนย์กลางจักรวาล พระอาทิตย์และดวงดาวน้อยใหญ่โคจรโดยรอบ ใต้โค้งฟ้าอันเป็นทรงกลมสมบูรณ์ สูงขึ้นไปจากนั้นคือสรวงสวรรค์ แต่การค้นพบของโคเปอร์นิคัสและตัวกาลิเลโอเองยืนยันว่าผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทั้งสองเป็นฝ่ายผิด

          จุดอันตรายอยู่ที่ความเชื่อแบบเก่านี้ถูกยอมรับโดยคริสตจักรที่ทรงอำนาจมาหลายร้อยปี การประกาศข้อค้นพบใหม่ไม่เพียงจู่โจมสรวงสวรรค์ของอริสโตเติล ปโตเลมี และพระเจ้า หากยังสั่นคลอนอำนาจของเหล่านักบวช

          กาลิเลโอใช่ว่าไม่รู้ หนังสือของเขา ‘บทสนทนา’ ว่าด้วยการพูดคุยถกเถียงของเพื่อนสามคนเกี่ยวกับความเชื่อเก่าและความเชื่อใหม่จึงพยายามไม่ฟันธง วางสถานะการค้นพบของโคเปอร์นิคัสเป็นเพียงสมมติฐานหนึ่งตามคำแนะนำของพระผู้ใหญ่ผู้ดูแลการพิมพ์หนังสือ แม้ว่าจะปกปิดความคิดของตัวเขาไม่ได้แนบเนียนนัก

          ถึงที่สุดหนังสือ ‘บทสนทนา’ ก็ได้รับอนุญาตให้จัดพิมพ์ได้ในปี 1632 นี่คือจุดเริ่มต้นของความร่วงโรยในชีวิตของกาลิเลโอ

          พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ปล่อยให้เหล่าที่ปรึกษาเป็นผู้อ่าน ‘บทสนทนา’ และลงความเห็น เปิดช่องให้ศัตรูผู้ริษยากาลิเลโอเป่าหู บวกกับสงครามสามสิบปียังไม่มอดดับซึ่งทำให้ “พระสันตะปาปาได้รับการชี้นิ้วกล่าวโทษว่า ไม่มีความสามารถในการปกป้องโลกคาทอลิก พระองค์ก็ไม่อาจปล่อยให้ผู้หยามหมิ่นคาทอลิกรายใหม่รอดชีวิตไปได้อย่างลอยนวล” กาลิเลโอถูกเรียกตัวเข้ากรุงโรมโดยไม่ได้รับการผ่อนปรนเพื่อไต่สวน

          Dava Sobel เขียนว่า

          “การกดขี่ของศรัทธาศาสนาต่อแนวคิดวิทยาศาสตร์ การข่มเหงของรัฐที่กระทำต่อราษฎร การปะทะกันระหว่างคนที่มีแนวคิดแปลกใหม่เฉพาะกับสถาบันโบราณ การท้าทายของแนวคิดใหม่เบิกยุคกับความเชื่องมงายที่สั่งสอนกันสืบมา และการดิ้นรนต่อสู้เพียงเพื่อต้องการเสรีภาพในการใช้ความคิดเสรี และการแสดงความเห็นโดยไม่ถูกปิดปากกดหัว ไม่เคยมีกระบวนการพิจารณาคดีใดๆ ในบันทึกประวัติศาสตร์ สารบบของพระคัมภีร์หรือกฎหมายจารีตประเพณีที่จะส่งเสียงดังกึกก้อง สะท้อนกังวานผ่านกาลเวลา แสดงความหมายปรากฏชัดเจน ผลกระทบใหญ่หลวง บันทึกอวิชชาและอคติให้ปรากฏชัดเจน จนกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ชวนให้หดหู่ยิ่งนักเช่นนี้”

          ผู้เขียนนำบันทึกคำพิพากษาของศาลศาสนามาแสดง

          ‘ด้วยเหตุผลพิจารณาจากเนื้อความโดยละเอียดในการพิจารณาคดีและคำสารภาพของท่าน ท่านยินยอมมอบตัวไว้ใต้การพิพากษาตัดสินของสมณสำนักในข้อหาอุกฉกรรจ์ ต้องสงสัยว่าฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ หลงเชื่อถือกฎบัตรอันเป็นเท็จ และขัดแย้งกับพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์…ท่านได้จงใจหาโทษภัยและทัณฑ์ทรมานที่ประกาศจดแจ้งไว้ชัดเจนแล้วโดยสารบบศักดิ์สิทธิ์และกฎหมายบัญญัติหรือพระราชกำหนดเฉพาะกรณี เราเต็มใจจะอภัยโทษให้ หากท่านมีหัวใจเปี่ยมด้วยความจริงใจและศรัทธาที่ไม่คลอนแคลน ตั้งใจเป็นปฐมต่อหน้าพวกเรา พร้อมสละทิ้ง สาปแช่ง ประณามความผิดพลาด และการฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งความผิดพลาดกับการฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในทุกเรื่องที่ขัดแย้งกับศาสนจักรคาทอลิกและเทวทูตศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิธีและรูปแบบที่เราจะเป็นผู้กำหนดแก่ท่าน’

          สุดท้าย กาลิเลโอในวัยชราต้องยอมรับสารภาพและโกหกตนเองเพื่อเอาชีวิตรอด เขาสารภาพว่า

          ‘ข้าฯ ต้องคำพิพากษาว่ามีความผิดฐานเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะฝ่าฝืนบทบัญญัติของพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ โดยยึดถือและเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล ปักหลักนิ่งกับที่ และโลกมิใช่ศูนย์กลางของจักรวาล หากแต่เคลื่อนที่โคจร

          ‘ด้วยเหตุนี้ เพื่อปลดความกังวลจากจิตใจของพระคุณเจ้าทั้งหลาย และปวงชนคริสเตียนผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา ถึงโทษต้องสงสัยอุกฉกรรจ์ที่ลงทัณฑ์ต่อข้าฯ อย่างเป็นธรรมแล้ว ข้าฯ ขอประกาศด้วยหัวใจเปี่ยมด้วยความจริงใจและศรัทธาที่ไม่คลอนแคลน พร้อมสละทิ้ง สาปแช่ง ประณามความผิดพลาดของการฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องดังกล่าว…

          ‘ข้าฯ ขอสาบานว่าในอนาคต ข้าฯ จะไม่พูดหรือร่วมในการสนทนาหรือเขียนเรื่องราวที่จะชวนให้ข้าฯ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นในคราวนี้’

          แล้วเวอร์จิเนียหรือแม่ชี มาเรีย เซเลสต์ ลูกสาวของกาลิเลโอผู้บวชในสำนักชีซานมัตเตโอเกี่ยวข้องอย่างไร?

          Dava Sobel เผยให้เห็นว่าความรักของเธอช่วยปลอบประโลมกาลิเลโอทั้งในยามรุ่งโรจน์และร่วงโรย มันทำให้เขามีเรี่ยวแรงค้นคว้าหาความรู้และขีดเขียนหนังสือ มันทำให้โลกของเขาดำรงคงอยู่และเคลื่อนที่ต่อไปได้ท่ามกลางความอยุติธรรมที่ได้รับ จดหมายที่มาเรีย เซเลสต์เขียนโต้ตอบกับบิดาซึ่งสอดแทรกอยู่ตลอดเล่มเป็นสิ่งยืนยัน

          มันคงคล้ายคลึงกับความรักในการเสาะแสวงหาความรู้อันไม่สิ้นสุดของกาลิเลโอที่ได้รับการพิสูจน์ในกาลต่อมาว่าโคเปอร์นิคัสและเขาเป็นฝ่ายถูก และศาสนจักรต่างหากที่ผิด

          ความรักชนิดนี้เองที่ทำให้โลกเคลื่อนที่ซึ่งไม่ว่าใครหรืออำนาจใดก็ไม่อาจทำให้มันหยุดนิ่งอยู่ได้


เรื่องโดย

328
VIEWS
กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล เรื่อง

แอดมินเพจ WanderingBook และสื่อมวลชน

          “Eqppur si muove – เอปปูร์ ซิ มูโอเว” (และมันยังคงเคลื่อนที่)

          มีตำนานเล่าลือว่าปี 1633 ณ กรุงโรม กาลิเลโอ กาลิเลอี ยักษ์ใหญ่แห่งวิทยาศาสตร์ ชาวฟลอเรนซ์ กระซิบกระซาบคำนี้ขณะลุกขึ้นยืนหลังจากถูกศาลศาสนาพิพากษาว่าเขามีความผิดฐานฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์และเชื่อถือกฎอันเป็นเท็จ

          กฎที่ว่าหมายถึงการค้นพบของโคเปอร์นิคัสที่ว่าพระอาทิตย์ปักหลักเป็นศูนย์กลางจักรวาลและโลกต่างหากที่เคลื่อนที่รอบพระอาทิตย์ มิใช่ในทางกลับกัน แต่ที่ประชุมใหญ่คณะนักเทววิทยา 11 คน ซึ่งแต่งตั้งจากพระผู้ใหญ่โดยพระสันตะปาปาพอลที่ 5 ลงความเห็นไว้เมื่อปี 1616 ว่าประเด็นพระอาทิตย์นั้นฝ่าฝืนบทบัญญัติในพระคัมภีร์ไบเบิล “นอกรีตอย่างเป็นทางการ” ส่วนประเด็นเกี่ยวกับโลกไม่ถึงขั้นฝ่าฝืน แต่ก็ “ย่อหย่อนศรัทธา”

          ชื่อของกาลิเลโอถูกจดจำในฐานะนักวิทยาศาสตร์ที่ทำการทดลองปล่อยวัตถุลงมาจากหอเอนเมืองปิซาและพื้นที่ลาดเอียง ผู้คิดค้นกล้องโทรทรรศน์ ผู้คนพบดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสบดี ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งฟิสิกส์เชิงทดลอง ยักษ์ใหญ่ที่ไอแซก นิวตันใช้เหยียบยืนบนบ่าเพื่อมองเห็นได้ไกลขึ้น คงเป็นความบังเอิญ นิวตันเกิดในปีเดียวกันกับปีที่กาลิเลโอเสียชีวิต ซึ่งก็คือปี 1642 และเรายังรู้อีกว่าในช่วงบั้นปลายชีวิต กาลิเลโอถูกกักบริเวณในบ้านจนถึงวาระสุดท้าย

          ‘ธิดากาลิเลโอ บันทึกประวัติศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์ ศรัทธา และความรัก’ (Galileo’s Daughter: A Historical Memoir of Science, Faith and Love) เขียนโดย Dava Sobel หนังสือเก่าที่ได้รับการแปลเป็นภาษาไทยตั้งแต่ปี 2546 สารคดีเรื่องนี้ร้อยเรียงชีวประวัติของกาลิเลโอ ประวัติศาสตร์วิทยาศาสตร์ และความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างเขากับลูกสาวคนโตนาม เวอร์จิเนีย ผู้คอยเป็นกำลังใจให้แก่บิดาอย่างไม่เคยขาดสาย

ธิดากาลิเลโอ บันทึกประวัติศาสตร์แห่งวิทยาศาสตร์ ศรัทธา และความรัก

          คุณอาจคิดว่ากาลิเลโอเป็นปฏิปักษ์กับศาสนาคริสต์ ไม่เลย ตรงกันข้ามด้วยซ้ำ เขาเป็นคาทอลิกที่เปี่ยมศรัทธา เขาเชื่อในพระเจ้า เขาเชื่อว่าพระเจ้าสร้างสรรค์ธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ พร้อมกับสร้างมนุษย์มาให้ค้นหาปริศนาในธรรมชาติ จุดนี้มิใช่สิ่งที่เหล่านักบวชผู้มีอำนาจยอมรับได้

          กาลิเลโอมีชีวิตในยุคอันปั่นป่วนของความเชื่อ ก่อนเขาเกิด 47 ปี หรือในปี 1517 มาร์ติน ลูเทอร์ นำ The 95 Theses ปิดประกาศที่หน้าโบสถ์เมืองวิตเทนเบิร์กทำให้ลูเทอร์ถูกประกาศตัดขาดจากศาสนา (Excommunication) ในอีก 3 ปีต่อมา นิกายโปรเตสแตนต์ถือกำเนิด ชักพายุโรปเข้าสู่ความขัดแย้งและเข่นฆ่าต่อเนื่องยาวนาน สงครามสามสิบปีระหว่างคาทอลิกและโปรเตสแตนต์เริ่มต้นในปี 1618 คร่าชีวิตผู้คนนับล้าน ซึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่คริสตจักรไม่ยินยอมให้มีผู้ท้าทายความเชื่อเพิ่มขึ้นอีกแม้แต่คนเดียวหากทำได้

          ในวัยหนุ่ม กาลิเลโอมิได้เรียนจบมหาวิทยาลัย ถึงกระนั้น ด้วยความเฉลียวฉลาดและขวนขวายหาความรู้ก็ทำให้เขาได้เป็นอาจารย์สอนหนังสือในมหาวิทยาลัย ถึงปี 1610 ก็ได้รับการแต่งตั้งเป็นนักคณิตศาสตร์อาวุโสและนักปรัชญาประจำราชสำนักแกรนด์ดยุคแห่งทัสคานี โคสิโมที่ 2

          ความโดดเด่นสร้างความริษยา ความริษยาก่อเกิดศัตรู ยามชีวิตรุ่งโรจน์ภัยพาลจากศัตรูเปรียบเหมือนหยดน้ำกระทบภูผาใหญ่ กาลิเลโอไม่เคยใส่ใจเพราะเชื่อมั่นในสติปัญญา ความรู้ การค้นพบของตนซึ่งมีหลักฐานรองรับ และความสัมพันธ์อันดีกับพระผู้ใหญ่ซึ่งรวมถึงพระคาร์ดินัล มาฟเฟโอ บาร์เบรินี ที่จะขึ้นเป็นพระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ในปี 1623 มันเป็นช่วงเวลาที่เขาทุ่มเทให้กับการค้นคว้า ทดลอง ประดิษฐ์คิดสร้าง เขียนหนังสือ และโต้ตอบกับผู้คนที่ยังยึดถือความเชื่อเก่าๆ อย่างเผ็ดร้อน

          ในยุคนั้น คำสอนของอริสโตเติลและปโตเลมี ยังมีอิทธิพล โลกคือศูนย์กลางจักรวาล พระอาทิตย์และดวงดาวน้อยใหญ่โคจรโดยรอบ ใต้โค้งฟ้าอันเป็นทรงกลมสมบูรณ์ สูงขึ้นไปจากนั้นคือสรวงสวรรค์ แต่การค้นพบของโคเปอร์นิคัสและตัวกาลิเลโอเองยืนยันว่าผู้ยิ่งใหญ่ในอดีตทั้งสองเป็นฝ่ายผิด

          จุดอันตรายอยู่ที่ความเชื่อแบบเก่านี้ถูกยอมรับโดยคริสตจักรที่ทรงอำนาจมาหลายร้อยปี การประกาศข้อค้นพบใหม่ไม่เพียงจู่โจมสรวงสวรรค์ของอริสโตเติล ปโตเลมี และพระเจ้า หากยังสั่นคลอนอำนาจของเหล่านักบวช

          กาลิเลโอใช่ว่าไม่รู้ หนังสือของเขา ‘บทสนทนา’ ว่าด้วยการพูดคุยถกเถียงของเพื่อนสามคนเกี่ยวกับความเชื่อเก่าและความเชื่อใหม่จึงพยายามไม่ฟันธง วางสถานะการค้นพบของโคเปอร์นิคัสเป็นเพียงสมมติฐานหนึ่งตามคำแนะนำของพระผู้ใหญ่ผู้ดูแลการพิมพ์หนังสือ แม้ว่าจะปกปิดความคิดของตัวเขาไม่ได้แนบเนียนนัก

          ถึงที่สุดหนังสือ ‘บทสนทนา’ ก็ได้รับอนุญาตให้จัดพิมพ์ได้ในปี 1632 นี่คือจุดเริ่มต้นของความร่วงโรยในชีวิตของกาลิเลโอ

          พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 8 ปล่อยให้เหล่าที่ปรึกษาเป็นผู้อ่าน ‘บทสนทนา’ และลงความเห็น เปิดช่องให้ศัตรูผู้ริษยากาลิเลโอเป่าหู บวกกับสงครามสามสิบปียังไม่มอดดับซึ่งทำให้ “พระสันตะปาปาได้รับการชี้นิ้วกล่าวโทษว่า ไม่มีความสามารถในการปกป้องโลกคาทอลิก พระองค์ก็ไม่อาจปล่อยให้ผู้หยามหมิ่นคาทอลิกรายใหม่รอดชีวิตไปได้อย่างลอยนวล” กาลิเลโอถูกเรียกตัวเข้ากรุงโรมโดยไม่ได้รับการผ่อนปรนเพื่อไต่สวน

          Dava Sobel เขียนว่า

          “การกดขี่ของศรัทธาศาสนาต่อแนวคิดวิทยาศาสตร์ การข่มเหงของรัฐที่กระทำต่อราษฎร การปะทะกันระหว่างคนที่มีแนวคิดแปลกใหม่เฉพาะกับสถาบันโบราณ การท้าทายของแนวคิดใหม่เบิกยุคกับความเชื่องมงายที่สั่งสอนกันสืบมา และการดิ้นรนต่อสู้เพียงเพื่อต้องการเสรีภาพในการใช้ความคิดเสรี และการแสดงความเห็นโดยไม่ถูกปิดปากกดหัว ไม่เคยมีกระบวนการพิจารณาคดีใดๆ ในบันทึกประวัติศาสตร์ สารบบของพระคัมภีร์หรือกฎหมายจารีตประเพณีที่จะส่งเสียงดังกึกก้อง สะท้อนกังวานผ่านกาลเวลา แสดงความหมายปรากฏชัดเจน ผลกระทบใหญ่หลวง บันทึกอวิชชาและอคติให้ปรากฏชัดเจน จนกลายเป็นเรื่องน่าเศร้าที่ชวนให้หดหู่ยิ่งนักเช่นนี้”

          ผู้เขียนนำบันทึกคำพิพากษาของศาลศาสนามาแสดง

          ‘ด้วยเหตุผลพิจารณาจากเนื้อความโดยละเอียดในการพิจารณาคดีและคำสารภาพของท่าน ท่านยินยอมมอบตัวไว้ใต้การพิพากษาตัดสินของสมณสำนักในข้อหาอุกฉกรรจ์ ต้องสงสัยว่าฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ หลงเชื่อถือกฎบัตรอันเป็นเท็จ และขัดแย้งกับพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์…ท่านได้จงใจหาโทษภัยและทัณฑ์ทรมานที่ประกาศจดแจ้งไว้ชัดเจนแล้วโดยสารบบศักดิ์สิทธิ์และกฎหมายบัญญัติหรือพระราชกำหนดเฉพาะกรณี เราเต็มใจจะอภัยโทษให้ หากท่านมีหัวใจเปี่ยมด้วยความจริงใจและศรัทธาที่ไม่คลอนแคลน ตั้งใจเป็นปฐมต่อหน้าพวกเรา พร้อมสละทิ้ง สาปแช่ง ประณามความผิดพลาด และการฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องดังกล่าว รวมทั้งความผิดพลาดกับการฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในทุกเรื่องที่ขัดแย้งกับศาสนจักรคาทอลิกและเทวทูตศักดิ์สิทธิ์ ด้วยวิธีและรูปแบบที่เราจะเป็นผู้กำหนดแก่ท่าน’

          สุดท้าย กาลิเลโอในวัยชราต้องยอมรับสารภาพและโกหกตนเองเพื่อเอาชีวิตรอด เขาสารภาพว่า

          ‘ข้าฯ ต้องคำพิพากษาว่ามีความผิดฐานเป็นผู้ต้องสงสัยว่าจะฝ่าฝืนบทบัญญัติของพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ โดยยึดถือและเชื่อว่าดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลางจักรวาล ปักหลักนิ่งกับที่ และโลกมิใช่ศูนย์กลางของจักรวาล หากแต่เคลื่อนที่โคจร

          ‘ด้วยเหตุนี้ เพื่อปลดความกังวลจากจิตใจของพระคุณเจ้าทั้งหลาย และปวงชนคริสเตียนผู้เปี่ยมด้วยศรัทธา ถึงโทษต้องสงสัยอุกฉกรรจ์ที่ลงทัณฑ์ต่อข้าฯ อย่างเป็นธรรมแล้ว ข้าฯ ขอประกาศด้วยหัวใจเปี่ยมด้วยความจริงใจและศรัทธาที่ไม่คลอนแคลน พร้อมสละทิ้ง สาปแช่ง ประณามความผิดพลาดของการฝ่าฝืนบทบัญญัติพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ในเรื่องดังกล่าว…

          ‘ข้าฯ ขอสาบานว่าในอนาคต ข้าฯ จะไม่พูดหรือร่วมในการสนทนาหรือเขียนเรื่องราวที่จะชวนให้ข้าฯ ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเช่นในคราวนี้’

          แล้วเวอร์จิเนียหรือแม่ชี มาเรีย เซเลสต์ ลูกสาวของกาลิเลโอผู้บวชในสำนักชีซานมัตเตโอเกี่ยวข้องอย่างไร?

          Dava Sobel เผยให้เห็นว่าความรักของเธอช่วยปลอบประโลมกาลิเลโอทั้งในยามรุ่งโรจน์และร่วงโรย มันทำให้เขามีเรี่ยวแรงค้นคว้าหาความรู้และขีดเขียนหนังสือ มันทำให้โลกของเขาดำรงคงอยู่และเคลื่อนที่ต่อไปได้ท่ามกลางความอยุติธรรมที่ได้รับ จดหมายที่มาเรีย เซเลสต์เขียนโต้ตอบกับบิดาซึ่งสอดแทรกอยู่ตลอดเล่มเป็นสิ่งยืนยัน

          มันคงคล้ายคลึงกับความรักในการเสาะแสวงหาความรู้อันไม่สิ้นสุดของกาลิเลโอที่ได้รับการพิสูจน์ในกาลต่อมาว่าโคเปอร์นิคัสและเขาเป็นฝ่ายถูก และศาสนจักรต่างหากที่ผิด

          ความรักชนิดนี้เองที่ทำให้โลกเคลื่อนที่ซึ่งไม่ว่าใครหรืออำนาจใดก็ไม่อาจทำให้มันหยุดนิ่งอยู่ได้


กฤษฎา ศุภวรรธนะกุล เรื่อง

แอดมินเพจ WanderingBook และสื่อมวลชน

Related Posts

STOP READING THE NEWS
Book of Commons

‘STOP READING THE NEWS’ สาระของข่าวไร้สาระ

January 17, 2023
185
‘ประวัติศาสตร์ซอมบี้ฯ’ เพราะฉันหิว ฉันจึงมีอยู่
Book of Commons

‘ประวัติศาสตร์ซอมบี้ฯ’ เพราะฉันหิว ฉันจึงมีอยู่

December 20, 2022
135
‘เปเรย์รายืนยัน’ ว่าเขาตายและเกิดใหม่อีกครั้ง
Book of Commons

‘เปเรย์รายืนยัน’ ว่าเขาตายและเกิดใหม่อีกครั้ง

November 15, 2022
667

Related Posts

STOP READING THE NEWS
Book of Commons

‘STOP READING THE NEWS’ สาระของข่าวไร้สาระ

January 17, 2023
185
‘ประวัติศาสตร์ซอมบี้ฯ’ เพราะฉันหิว ฉันจึงมีอยู่
Book of Commons

‘ประวัติศาสตร์ซอมบี้ฯ’ เพราะฉันหิว ฉันจึงมีอยู่

December 20, 2022
135
‘เปเรย์รายืนยัน’ ว่าเขาตายและเกิดใหม่อีกครั้ง
Book of Commons

‘เปเรย์รายืนยัน’ ว่าเขาตายและเกิดใหม่อีกครั้ง

November 15, 2022
667
ABOUT
SITE MAP
PRIVACY POLICY
CONTACT
Facebook-f
Youtube
Soundcloud
icon-tkpark

Copyright 2021 © All rights Reserved. by TK Park

  • READ
    • ALL
    • Common WORLD
    • Common VIEW
    • Common ROOM
    • Book of Commons
    • Common INFO
  • PODCAST
    • ALL
    • readWORLD
    • Coming to Talk
    • Read Around
    • WanderingBook
    • Knowledge Exchange
  • VIDEO
    • ALL
    • TK Forum
    • TK Common
    • TK Spark
  • UNCOMMON
    • ALL
    • Common ROOM
    • Common INFO
    • Common EXPERIENCE
    • Common SENSE

© 2021 The KOMMON by TK Park.

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

The KOMMON มีการใช้คุกกี้ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ไปวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่า อนุญาต
Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก
Privacy Preferences
https://www.thekommon.co/network/cache/breeze-minification/js/breeze_a4dab631ed3075bfaa2ed418c8e565d1.js