กลับบ้านไปทำสวน อยู่แบบสบายๆ ไม่ต้องวิ่งไล่ตามทุกคนตลอดเวลา ประโยคที่พูดมาอาจจะดูเป็นภาพในฝันของใครหลายคน แต่หากจะให้กระโดดออกจากงานที่รักไปลงมือทำเลยตอนนี้ ก็ดูเป็นเรื่องยิ่งใหญ่จนไม่กล้าตัดสินใจ เพราะถ้าตัดสินใจไปแล้วผิดพลาดคงรู้สึกแย่ไม่น้อย
เนาว์ – เสาวนีย์ สังขาระ เห็นว่าพื้นที่การเรียนรู้เพื่อทดลองใช้ชีวิตแบบที่ฝันเป็นสิ่งที่หลายๆ คนกำลังแสวงหา ผสานกับประสบการณ์ชีวิตในวันที่มรสุมพัดผ่านเมื่อ 7 ปีที่แล้ว เธอเคยเชื่อว่าเธอจะได้รู้จักทุกอย่างบนโลกใบนี้ผ่านการเดินทางรอบโลก แต่เมื่อพ่อป่วยเป็นมะเร็ง เธอจึงได้เรียนรู้ว่าเธอไม่รู้อะไรเลย
เนาว์จึงตัดสินใจพาตัวเองที่ไม่รู้ โยกย้ายมายังจังหวัดลำพูน อาศัยอยู่ในพื้นที่ป่าน้ำจำ ป่าชุมชนแห่งแรกในไทย เพื่อเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้พ่อได้ใกล้ชิดธรรมชาติ โชคดีที่การโยกย้ายครั้งนี้ ทำให้เธอได้พบเจอกัลยาณมิตรที่คอยช่วยเหลือ โอบอุ้ม และแลกเปลี่ยนความรู้ ให้เธอได้ทดลองออกแบบชีวิตของตัวเองเสียใหม่ เมื่อผ่านเหตุการณ์เหล่านั้นมาได้ วันนี้เนาว์ได้พบสมดุลของชีวิตแล้ว เธอยังคงได้ทำงานที่รัก ได้ดูแลครอบครัว ได้มีวิถีชีวิตที่อยากเป็น
และนี่คือจุดเริ่มต้นของ ‘สวนศิลป์บินสิ Film Farm School’ พื้นที่การเรียนรู้ ซึ่งเป็นส่วนประกอบจากคำว่า Film หมายถึงโปรดักชั่นเฮ้าส์ที่เธอใช้สร้าง ‘สารคดีบินสิ’ ที่ทำร่วมกับไทยพีบีเอส ซึ่งยังคงดำเนินต่อไปในจังหวะชีวิตที่อยู่ลำพูน คำว่า Farm คือ การทำสวนที่เป็นวิถีชีวิตอีกด้านที่เธอกับครอบครัวได้ร่วมกันทำ และคำว่า School คือ ความเชื่อในการเรียนรู้ที่เธอมีมาโดยเสมอ
สวนศิลป์บินสิ เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน ที่อยากให้ทุกคนได้ทดลองมาลงมือทำตามฝันจริงๆ โดยมีบริบทชีวิตในต่างจังหวัด ทดลองสร้างบ้าน ทดลองใช้เครื่องมือช่าง ทดลองปลูกผักทำสวน หรือทดลองนอนตากยุงในหน้าฝน ได้สังเกตเห็นพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าและดวงดาวในยามค่ำ หรือแม้แต่การเอาทักษะการทำสารคดีมาเปิดคอร์สให้ทุกคนได้ลองเป็นนักเล่าเรื่องของตัวเอง
หัวใจของการเรียนรู้ที่สวนศิลป์บินสิ ไม่ได้บอกว่าทุกคนจะต้องลาออกจากงานมามีชีวิตในแบบเดียวกัน แต่คือการทดลองใช้ชีวิตที่ทำให้ได้เห็นและเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่า อะไรคือความต้องการลึกๆ ก่อนตัดสินใจเดินตามเส้นทางของตัวเองต่อไป
ทดลอง ‘ใช้ชีวิต’ ก่อนตัดสินใจเปลี่ยนชีวิต
สวนศิลป์บินสิ เกิดจากการทดลองตามหาสมดุลให้การงานที่รักและปัจจัยเงื่อนไขชีวิตที่แตกต่าง เพราะรู้ว่าใครก็ตามหากจะมานับหนึ่งใหม่กับชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดายนัก เนาว์จึงอยากให้ที่นี่เป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้เข้ามาทดลองใช้ชีวิตแบบที่ฝัน เพราะภาพจำของการอยู่บ้านต่างจังหวัด ทำสวนเล็กๆ อาจไม่ได้เป็นแบบที่คิดก็ได้
หลักสูตรการเรียนรู้ที่เกิดขึ้น จึงไม่ใช่แค่การได้มาพักแบบโฮมสเตย์ชิลล์ๆ นอนคืนเดียวกลับ แต่เป็นพื้นที่ที่ทุกคนจะได้ทดลองใช้ชีวิตแบบที่เคยวาดฝันแบบจริงๆ และมีระยะเวลาให้ได้ใช้ชีวิตนานหน่อย เพื่อเผชิญกับธรรมชาติแบบที่ยุงเยอะในหน้าฝน หรือมีแมลงเข้าบ้าน ต้องยกก้อนอิฐหนักๆ ต้องตื่นมาดูแลผักที่ปลูก
นี่คือความจริงที่ไม่ได้สวยงามในการมาสร้างบ้านต่างจังหวัด แต่เนาว์ก็เชื่อว่าพื้นที่ตรงนี้จะทำให้ได้เรียนรู้ตัวเอง และเรียนรู้ความเป็นจริงว่าแต่ละคนรับมือกับภาพฝันที่ตัวเองคิดได้แค่ไหน
หลักสูตรที่ไม่มีเล็กเชอร์ มีแต่ภาคปฏิบัติ
หลักสูตรของสวนศิลป์บินสิมีหลากหลายรูปแบบ ตามความต้องการพื้นฐานของผู้เรียนรู้ และออกแบบให้มุ่งเน้นการลงมือทำเป็นหลัก เช่น หลักสูตรกลับบ้าน ที่ชวนทุกคนมาทดลองใช้ชีวิตต่างจังหวัดแบบจริงๆ พร้อมกับการตั้งคำถามว่าทำไมต้องกลับบ้าน การกลับบ้านต้องเรียนรู้อะไรบ้าง ต้องเจออะไรบ้าง มาลองใช้ชีวิตแบบที่กลับบ้านต่างจังหวัดกันจริงๆ ดูว่าจะเป็นยังไง
นอกจากนี้ก็ยังมี หลักสูตรสร้างบ้าน หลังจากที่หมายมั่นปั้นมือว่าอยากกลับไปใช้ชีวิตต่างจังหวัด แล้วการสร้างบ้านต้องทำอย่างไร สวนศิลป์บินสิจะพานักเรียนไปสร้างบ้านดินหรือบ้านต้นไม้ ไปปลูกผัก ไปตามหาปัจจัยสี่แบบที่ไม่เสียเงิน
รวมไปถึง หลักสูตรทำสารคดี ที่ไม่ได้เน้นไปที่เครื่องมือยากๆ แต่เป็นทักษะการเล่าเรื่องที่เนาว์สอนผ่านการสร้างวงคุยที่ใส่ใจ ให้ทุกคนได้ลองเป็นนักเล่าเรื่องของตัวเอง ก่อนจะเอาไปปรับใช้กับชีวิตของแต่ละคนได้
แกนกลางของการเรียนรู้ที่นี่ จึงเป็นเรื่องการลงมือทำให้เข้าใจ ในยามที่ร่างกายได้ขยับจะทำให้คนเรียนได้สัมผัสกับทักษะอย่างจริงจังขึ้น และได้คิดว่านี่คือสิ่งที่ใช่สำหรับตัวเองไหม
จุดหมายของนักเดินทาง ที่มาแลกกันเรียน แลกกันรู้
ก่อนตัดสินใจสร้างบ้านและตั้งรกรากที่นี่ เนาว์เคยเป็นนักเดินทางตัวยงที่รักการไปเรียนรู้โลกภายนอก แต่ด้วยสถานการณ์ชีวิตที่เกิดขึ้น ทำให้เธอตัดสินใจเปลี่ยนมุมมองเรื่องการเดินทางว่าไม่จำเป็นต้องออกไปข้างนอก แต่ให้เดินทางเรียนรู้ไปกับผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาหาเธอ
ที่นี่จึงกลายเป็นจุดหมายของนักเดินทางที่มองหาการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ และกลายเป็นพื้นที่นัดพบแลกเปลี่ยนพูดคุยของคนที่สนใจคล้ายๆ กัน บางคนแลกเปลี่ยนเรียนรู้เรื่องกาแฟ เรื่องโยคะ เรื่องการทำอาหาร เรื่องการทำงานศิลปะ
ในบางครั้งคราว สวนศิลป์บินสิก็กลายเป็นชุมชนขนาดย่อมที่พร้อมเปิดให้ทุกคนได้มาแลกเปลี่ยนทักษะที่มีให้กันและกัน ด้วยวงคุยธรรมชาติที่เนาว์มักเปิดพื้นที่ให้ทุกคนได้สนทนาแลกเปลี่ยนเสมอ และนี่คือการเรียนรู้ที่ไม่ต้องพึ่งตำรา แต่มาจากประสบการณ์จริงของทุกคนที่หาที่ไหนไม่ได้
“หาความต้องการของคนให้เจอ เข้าไปให้ถึงหัวใจของคนเรียน”
การสำรวจความต้องการของคนเป็นสิ่งที่เนาว์ใช้เป็นรากฐานในการสร้างพื้นที่การเรียนรู้แห่งนี้ เธอเน้นย้ำว่า สวนศิลป์บินสิเกิดจากความต้องการพื้นฐานของคน
“ต้องชัดว่าเราทำไปทำไม อย่างเรา เราพยายามหาพื้นที่ที่สมดุลของตัวเองก่อน ได้ทำงานตามความชอบ ได้ดูแลครอบครัว ได้มีพื้นที่เรียนรู้อยู่ใกล้ตัวตลอดเวลา จากนั้นก็ค่อยดูมีวิธีการอย่างไรบ้างที่จะสร้างให้คนอื่นมามีส่วนร่วมด้วยบนเงื่อนไขที่เรามี เช่น ถ้าเราไม่ได้มีเงินเยอะ แต่เรามีทักษะติดตัวจากการเดินทางรอบโลก ไปเห็นพื้นที่การเรียนรู้หลายๆ แบบ เราก็เอามาปรับใช้กับของเรา แถมเรายังเก่งเรื่องการสื่อสาร เราก็ยังทำงานโปรดักชันที่เรารักต่อไป ทั้งทำสารคดีเกี่ยวกับพื้นที่การเรียนรู้ และสอนเป็นหลักสูตรทำสารคดีให้คนที่สนใจไปพร้อมๆ กัน เพราะฉะนั้น ต้องหาจุดแข็งของเราให้เจอ จากนั้นค่อยมาดูว่าจะสร้างอะไรบ้าง มีอะไรในพื้นที่บ้าง”
เนาว์ยังเชื่อว่าคนที่จะเปิดพื้นที่การเรียนรู้ได้ ควรเป็นคนที่ใจกว้างและพร้อมเปิดเผยตัวตนอย่างจริงใจ เพื่อสร้างพื้นที่แลกเปลี่ยนที่เป็นมิตร ที่จะทำให้คนยอมลดการ์ดของตัวเองลง และพร้อมเรียนรู้ แลกเปลี่ยนไปด้วยกัน
“ใครๆ ก็สอนทักษะแบบกายภาพได้ แต่ถ้าอยากให้ไปไกลกว่านั้น คือเราต้องเข้าไปถึงหัวใจของคนเรียนด้วย เพราะถ้าคนเรียนรู้สึกไม่ได้เชื่อมโยงกับเรา เขาก็จะไม่ได้รับการเรียนรู้แบบเต็มที่ มาแล้วก็ไป ถึงจะเก่งในทักษะอาชีพแค่ไหน แต่ก็ไม่มีอะไรทำให้คนอยากเรียนรู้ เท่ากับการเปิดใจให้กัน”
Tiny Space, Big Learning โดย ili.U คอนเทนต์ซีรีส์จากเพจที่สนใจ Conscious Lifestyle ชวนไปสำรวจพื้นที่การเรียนรู้ขนาดเล็กที่เกิดจากคนตัวเล็กๆ ทั่วประเทศ ใส่ใจเรื่องการศึกษาในแบบฉบับของตัวเอง และพยายามขยายขอบเขตการเรียนรู้ไปจากห้องเรียนที่เคยชิน พื้นที่เหล่านี้มีอะไรให้เรียนรู้ แล้วคนทำได้บทเรียนก้อนใหญ่อะไรจากการสร้างการเรียนรู้นอกห้องเรียน หลังจากนี้พบกันได้ทุกวันพฤหัสที่ 2 และ 4 ของเดือน