Cork City เมืองแห่งการเรียนรู้ที่พานักวิชาการกับชุมชนมาออกแบบพื้นที่การเรียนรู้ใกล้บ้านด้วยกัน

1,099 views
7 mins
September 20, 2022

          ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เมืองคอร์ก (Cork city) เมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของประเทศไอร์แลนด์ เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่ชูให้เห็นความสำคัญของการศึกษาด้านวิชาการ ว่าเป็นรากฐานของการพัฒนาผู้คนและชุมชน

          นอกเหนือจากการเป็น 1 ใน 3 เมืองของยุโรปที่ได้รับรางวัลจาก UNESCO ในฐานะเมืองแห่งการเรียนรู้ ใน ค.ศ. 2015 ที่นี่ยังมีจุดเด่นเรื่องแนวคิด lifelong learning หรือการส่งเสริมการเรียนรู้ไม่สิ้นสุด เริ่มแรกในพื้นที่ทางตอนเหนือของย่านน็อกนาฮีนี (Knocknaheeny) และตอนใต้ของย่านเบลลีฟีแฮน (Ballyphehane) เพราะทั้งสองพื้นที่นี้มีจุดเด่นของการมีประชากรผู้สูงอายุและเยาวชนจำนวนมาก แต่ปัญหาที่ทั้งสองย่านนี้มีคล้ายกัน คือความบกพร่องทางการศึกษา

          มองในแง่ของสีสันหรือความหวือหวา เมืองคอร์กอาจจะไม่ได้ดูเตะตามากเท่ากับ Learning Space ในเมืองดังๆ อย่างโปรเจกต์เมืองภาพยนตร์ปูซานหรือหางโจว แต่เห็นได้ชัดว่าการผนึกกำลังของเครือข่ายเมืองในประเทศเดียวกัน และการพยายามแก้ไขปัญหาของความเป็นย่านๆ นั้นให้ดีขึ้นผ่านการพัฒนาสภาพเศรษฐกิจ สังคมและชุมชน รวมถึงวัฒนธรรม ทำให้ประชากรในเมืองมีแรงบันดาลใจลุกขึ้นมาทำกิจกรรมได้แบบไม่ต้องอาศัยกิจกรรมหวือหวาอะไรมาก

          คณะกรรมาธิการเมืองคอร์ก (Cork City Council) สถาบันพัฒนาการศึกษาแห่งคอร์ก (Cork Education and Training Board – ETB) และมหาวิทยาลัยคอร์ก (University College Cork – UCC) ร่วมกันสร้างสรรค์โปรแกรม Learning Neighborhoods หรือย่านการเรียนรู้ใกล้บ้านด้วยกัน เป้าหมายหลักของการสร้างเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO คือการสร้างการเรียนรู้ที่ไม่มีที่สิ้นสุดและความครอบคลุมทางสังคม (Social Inclusion) การเลือก 2 ย่านที่ว่าไปตอนต้นนี้มาทำการทดลองเป็น Pilot Project จึงเป็นการสร้างเมืองผ่านการพัฒนาวัฒนธรรมและความรู้จากย่านทั้งสองก่อน แล้วค่อยนำข้อดี ข้อเสีย ไปปั้นคอนเซปต์ที่เหมาะสมให้กับย่านอื่นๆ โดยไม่เกิดการเปรียบเทียบว่าย่านใครดีกว่ากัน

          รางวัลชั้นนำมากมายการันตีความเข้มข้นในเชิงวิชาการของมหาวิทยาลัยคอร์ก ทั้งตำแหน่งแคมปัสรักษ์โลกที่ดีที่สุด หรือการยอมรับหลักการความเท่าเทียมทางเพศ ที่มอบโดย Athena SWAN Awards ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสถาบันระดับอุดมศึกษาที่ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศได้เป็นอย่างดี ในเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยยังมีรายละเอียดของรางวัลและข่าวสารมากมายที่ทันสมัย เป็นสัญญาณที่ดีของการก้าวตามให้ทันเทรนด์โลก

          แต่ในร่มที่ใหญ่กว่านั้น เมืองลิเมอริก (Limerick) เบลฟาสต์ (Belfast) เดอร์รี (Derry) และดับลิน (Dublin) ที่เป็นสมาชิกของเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก (The UNESCO Global Network of Learning Cities – GNLC) ก็ยังร่วมลงนาม MOU เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของเมืองยั่งยืน โดยการทำงานร่วมกันทั้งกิจกรรม ส่งเสริมแรงบันดาลใจ และใช้ทรัพยากรที่มีเพื่อสร้างการเรียนรู้ที่ครอบคลุมตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงอุดมศึกษา ปลุกชีวิตให้กับการศึกษาในสถาบันครอบครัวและชุมชน หรืออำนวยความสะดวกด้านการศึกษาในที่ทำงาน เป็นต้น

          หากมีนักเขียนสักคนจับปากกาเขียนเรื่องราวของเมืองคอร์กอยู่ เส้นทางของเมืองคอร์ก จึงอาจเปรียบได้กับนวนิยายที่พล็อตเรื่องแข็งแรง เรียบง่าย และปลายเปิดเป็นอย่างมาก

อาจารย์ออกแบบวิชา ท้องถิ่นออกแบบสถานที่เรียน

          คอร์กเป็นเมืองแห่งมหาวิทยาลัยที่มีสถานที่ไว้อำนวยความสะดวกให้กับนักศึกษาอยู่เป็นทุนเดิม เช่น บาร์ พิพิธภัณฑ์ โรงละคร หรือคาเฟ่ต่างๆ และได้รับการคัดเลือกให้เป็นเมืองหลวงทางวัฒนธรรมของยุโรป (European Capital of Culture) ใน ค.ศ. 2005 ด้วย

          การที่มหาวิทยาลัยคอร์กเข้ามาเป็นพาร์ตเนอร์หนึ่งของการพัฒนาย่านการเรียนรู้ในพื้นที่ทดลองอย่างเบลลีฟีแฮนและน็อกนาฮีนี จึงเริ่มด้วยกิจกรรมพื้นฐาน คือซีรีส์เล็กเชอร์ที่เน้นการพัฒนาหลักสูตรจากคนในชุมชนเป็นหลัก เพื่อที่สมาชิกชุมชนจะได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาในระดับอุดมศึกษา

          ย่านเบลลีฟีแฮนมีประชากรผู้สูงอายุที่อายุเกิน 60 ปี อยู่ถึง 1 ใน 4 ของจำนวนทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์ในทางสังคมและเศรษฐกิจคือ ประชากรกว่าร้อยละ 28 ของชุมชนไม่ได้รับการศึกษาเกินชั้นประถม ในขณะที่ย่านน็อกนาฮีนีมีประชากรที่อายุน้อยกว่ามาก แต่ปัญหายังคงมีปัญหาเดียวกัน

          โอกาสในการเข้าถึงการศึกษาของชุมชนทั้ง 2 แห่ง จึงเป็นความท้าทายหลักของการช่วยกันขยับให้ประชากรได้เข้าถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษา และมีเส้นทางการต่อยอดอาชีพในอนาคตเพื่อชีวิตทางสังคมและเศรษฐกิจที่ดี ผู้สูงอายุซึ่งเป็นประชากรส่วนมากของย่าน ก็จะได้ใช้ชีวิตบั้นปลายหลังเกษียณอย่างมั่นคงด้วยเช่นกัน

          วิธีการออกแบบก็ง่ายๆ คือการสำรวจความสนใจของอาจารย์และบุคลากรในมหาวิทยาลัย หลังจากทำเวิร์กชอปกับชุมชน อาจารย์ที่สนใจจะต้องส่งหัวข้อวิชาพร้อมคำอธิบายสั้นๆ ที่จะปลุกความสนใจของนักเรียนในอนาคตได้

          เมื่อคอร์สเรียบร้อยแล้ว สถานที่เรียนเป็นหน้าที่ของชุมชนต่างๆ เพราะโจทย์คือ การเชื่อมโยงการเรียนรู้ของชุมชนเข้าด้วยกัน โดยแต่ละคอร์สจะเปิดกว้างต่อสาธารณะ และเวียนไปเรื่อยๆ ตามท้องถิ่นที่รับหน้าที่เป็นโฮสต์ ทั้งวิทยาศาสตร์ ศิลปะ สุขศึกษา ประวัติศาสตร์ 

          หากคอร์สไหนคนลงเรียนน้อย ก็จะมีการสะท้อนความคิดเห็นระหว่างมหาวิทยาลัยและคนในชุมชนเพื่อปรับปรุงหลักสูตร และสิ่งที่น่าสนใจคือสายสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่าง ภาควิชาการคืออาจารย์มหาวิทยาลัย กับภาคชุมชนคือคนในเมืองคอร์กได้เกิดขึ้นแล้ว ในอนาคตจึงอาจจะมีงานวิจัยที่น่าสนใจจากการทำงานร่วมกันของทั้งฝ่ายออกมา

          เจาะลึกลงไปในเบื้องหลังโมเดลต้นแบบของย่านการเรียนรู้ โมเดลการพัฒนาและส่งเสริมความสำคัญของสุขภาพ (Developing a Health Promoting School) เป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมสถาบันการศึกษาเพื่อสุขภาพในไอร์แลนด์ (Schools for Health in Ireland) ที่ถูกนำมาใช้ด้วย

          เนื้อหาหลักสูตรของโปรแกรมเหล่านี้ได้รับการออกแบบจากเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลกจากองค์กรอย่าง องค์การอนามัยโลก (World Health Organization – WHO) UNICEF UNESCO หรือ ศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (US Centers for Disease Control and Prevention – CDC) เพราะเรื่องสุขภาพเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาชุมชน

ทำแคมเปญอย่างไม่สิ้นสุด

          ในเชิงของโครงสร้างชุมชน และระดับการศึกษาของประชากร ย่านทดลองทั้งสองยังถือว่าเป็นย่านที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อไปให้ถึงจุดหมายของการเรียนรู้ การทำให้เป้าหมายนี้เกิดขึ้นจริงจึงเป็นการจัดเทศกาลการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง (Lifelong Learning Festival)

          ตลอดปีของการสร้างรากฐานทางการศึกษา แคมเปญและเวิร์กชอปต่างๆ จึงต้องมีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมืองคอร์กก็ยังคงโดดเด่นในเรื่องการดีไซน์เรื่องง่ายให้งดงาม

          Faces of Learning Poster Campaign คือ แคมเปญที่มีจุดประสงค์ให้ทุกคนในชุมชนได้มีส่วนร่วม ผ่านรูปภาพของสมาชิกโครงการทั้งย่านเบลลีฟีแฮนและน็อกนาฮีนีที่จัดแสดงไว้ที่ห้องสมุดของทั้งสองพื้นที่ใน ค.ศ. 2016

          โครงการ STEAM Education ของน็อกนาฮีนีก็ถูกออกแบบและทดลองในปีเดียวกันโดยกลุ่มอิสระที่มีพื้นฐานความรู้ด้านการศึกษาเยาวชน โครงการที่ว่านี้พุ่งเป้าไปที่การพยายามจะเชื่อมต่อช่องว่างในระบบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม หรือคณิตศาสตร์ (STEM) และพัฒนาคุณภาพของนักศึกษาที่สนใจจะเติบโตในสายงานเหล่านี้

          สะพานสำคัญที่เมืองคอร์กสร้างเตรียมไว้อยู่แล้วคือ การร่วมงานกับมหาวิทยาลัยคอร์ก เพราะมหาวิทยาลัยเองก็จะได้รับทรัพยากรและร่วมพัฒนางานวิจัยไปพร้อมๆ กันกับสมาชิกในชุมชน

          มิติของการสร้างสรรค์กิจกรรมเชิงวัฒนธรรมของเมืองคอร์กมีความหลากหลาย และมีการแข่งขันเกิดขึ้นมากมายตลอดปีสำหรับคนจากหลากหลายที่มา เช่น โครงการสอนคณิตศาสตร์ฟรี ชมรมทำการบ้าน ชมรมศิลปะการแสดงสดสำหรับวัยรุ่นที่ล้มแล้วลุกเร็วโดยศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพเยาวชนแห่งคอร์ก (The Cork Migrant Centre Youth Initiative) 

          ในเทศกาลการเรียนรู้ของปี 2022 นิทรรศการแสดงงานศิลปะ งานคราฟต์ ภาพถ่าย การเรียนรู้ระหว่างช่วงเวลาล็อกดาวน์ โยคะ คลาสสอนเต้นร่วมสมัย งานบรรยายว่าด้วยพลังของผู้หญิงผ่านงานวิจัย หรือแม้กระทั่งหลักการ SDG (Sustainable Development Goal) ที่ว่าด้วยการศึกษาเชิงคุณภาพ ความเท่าเทียมทางเพศ และการใช้ชีวิตบนผืนแผ่นดิน สามารถอยู่ร่วมกันได้เพราะการเรียนรู้เริ่มมาจากความสามารถที่จะเลือกในสิ่งที่สนใจ และศึกษากับมันต่ออย่างลึกซึ้ง

          เมืองแห่งการเรียนรู้จึงใช้รางวัลเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในการขับเคลื่อนความมีชีวิตชีวา และขอเล่นใหญ่สักนิดเพื่อให้แต่ละปีมีเรื่องเล่าของชุมชน ดังนั้น เราจึงเห็น Roll of Honour หรือลิสต์รายชื่อผู้ได้รับการยกย่องในหมวดหมู่ต่างๆ คล้ายกับการประกาศรางวัลออสการ์แต่เป็นระดับท้องถิ่น เช่น รางวัลผู้สูงอายุดีเด่น (Active Retired Award) รางวัลเยาวชนแห่งชุมชน (Youth in Community Award) และอีกมากมายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในทุกระดับชั้น

          นอกเหนือจากย่านทดลอง อย่าง Glen Learning Neighbourhood ยังมีโครงการน่าสนใจในการสร้างแนวร่วมเพื่อส่งเสริมความหมายของการมีสุขภาพจิตที่ดี เช่น จัดงานการระดมทุนร่วมกับกลุ่ม Shine A Light ที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องการป้องกันการฆ่าตัวตาย และการยกระดับความรู้ด้านสุขภาพจิต เพื่อชี้ให้เห็นว่าเรื่องนี้ก็สำคัญเช่นเดียวกัน หากเมืองจะต้องการเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง

          สังเกตุได้ว่าหลายเมืองจากทั่วโลกที่โอบรับรางวัลเมืองแห่งการเรียนรู้ จะโฟกัสไปที่สีสัน และความรุ่มรวยของวัฒนธรรม หรืออัตลักษณ์ของการทำงานร่วมกัน เพื่อส่งเสียงว่าชุมชนของฉันมีความต้องการที่เฉพาะเจาะจง และชุมชนของฉันรู้ดีว่าเรามีคนเก่งด้านไหน ต้องการอะไร เมืองคอร์กก็พยายามสร้างสรรค์ Key Takeaway เหล่านี้เช่นเดียวกัน

          แต่ความเจ๋งของของที่นี่ คือการตระหนักรู้ว่าคนในชุมชนต้องการการศึกษาระดับอุดมศึกษา ชัดเจนและจริงจัง ทุกคนจะได้เข้าห้องเล็กเชอร์เสมอแม้จะแวะชมนิทรรศการของน้องข้างบ้าน หรือคุณป้าจากย่านอื่น ในเทศกาลที่ร่วมกันจัดกันขึ้นมาเพื่อคนในชุมชน ก็จะสอดแทรกการเสวนาที่เข้มข้นที่อาจเกิดจากงานวิจัยไปด้วย เพื่อให้ทุกคนได้พัฒนาตัวเองจนมีทักษะทางวิชาการผ่านคอร์สร้อยแปด ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ หรือเป็นใครก็ตาม


ที่มา

บทความ “Cork Celebrates Lifelong Learning Awards 2022” จาก corklearningfestival.ie (Online)

บทความ “Designing and Implementing Learning Neighbourhoods in Cork’s UNESCO Learning City Project” จาก papers.ssrn.com (Online)

บทความ “Learning Neighbourhood” จาก ucc.ie (Online)

บทความ “องค์การยูเนสโกเปิดรับสมัครสมาชิกเครือข่ายระดับโลกด้านเมืองแห่งการเรียนรู้” จาก bic.moe.go.th (Online)

เว็บไซต์ corklearningfestival.ie (Online)

RELATED POST

แหล่งชุมนุมความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้
และห้องสมุดกับการเปลี่ยนแปลงสังคม

                                                                                            

The KOMMON มีการใช้คุกกี้ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ไปวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก