The KOMMON
TK Park website
No Result
View All Result
The KOMMON
TK Park website
No Result
View All Result
The KOMMON
No Result
View All Result
 
Read
Common WORLD
แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ใช้ศิลปะและความสร้างสรรค์สร้างทุกคนให้เป็นพลเมือง
Common WORLD
  • Common WORLD

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ใช้ศิลปะและความสร้างสรรค์สร้างทุกคนให้เป็นพลเมือง

1,185 views

 7 mins

4 MINS

June 20, 2022

Last updated - August 1, 2022

          “There are volcanoes, and that’s really classy” คือหนึ่งในคำแนะนำของบล็อกในเว็บไซต์อีราสมุส (Erasmus+ โครงการให้ทุนการศึกษาของสหภาพยุโรป) ที่เขียนไว้เพื่ออธิบายเมือง แกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand) ประเทศฝรั่งเศส แปลได้ว่า “เมืองเรามีภูเขาไฟด้วยนะ มันเลิศมากเลยล่ะ”

          แกลร์มง-แฟร็อง เป็นเมืองที่น่าอยู่ทีเดียวในเว็บไซต์นำเที่ยวต่างๆ นอกจากภูเขาไฟที่มียอดตัดเพราะลาวาเย็นตัว ก็มีข้อเด่นทางด้านทะเลสาบสวยงามในฤดูร้อน เส้นทางปีนเขาวิวดี กิจกรรมกีฬาเข้าถึงง่ายในเมือง

          สำนักงานใหญ่ของบริษัทขายยางมิชลินตั้งอยู่ที่นี่ และยังเป็นเมืองที่บรรยากาศทางการศึกษาดีเยี่ยม เพราะนักศึกษาเลือกมาศึกษาที่นี่เป็นอันดับต้นๆ

          แต่เอกลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ แกลร์มง-แฟร็อง สดใสและมีผู้คนจากทั่วโลกแวะเวียนเข้ามาร่วมกิจกรรม คือการมีพื้นที่ทางศิลปะที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้คนในชุมชนร่วมดีไซน์และเล่นสนุก

          แถมยังมีโปรแกรมละครเวทีมียาวเหยียด มหกรรมดนตรีไม่เคยขาดตอน บทกลอนและการอ่านวรรณกรรมก็ยังมีไว้ให้เป็นตัวเลือกเสมอ

          วัฒนธรรมทั้งเก่าและใหม่ที่หลายฝ่ายร่วมกันสร้างเป็นทั้งสีสันและช่วงเวลาระหว่างวัน นาที วินาทีที่ดีของทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน

Clermont-Ferrand

ที่นี่ ศิลปะเดินทางมาหาผู้คน

          แกลร์มง-แฟร็อง เป็น ‘เมืองแห่งการเรียนรู้’ หรือ Learning City แห่งแรกในประเทศฝรั่งเศสที่อยู่ในเครือข่ายระดับโลกด้านเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก (The UNESCO Global Network of Learning Cities – GNLC) ที่มีข้อได้เปรียบอย่างแรกคือบริษัทถึง 25,000 แห่ง นักเรียน 35,000 คน นักวิจัย 1,300 คนพร้อมห้องแล็บวิจัย 35 แห่ง การบ่มเพาะธุรกิจ (Business Incubator) อีกหลายโครงการที่มีงบประมาณไว้ราว 43% เพื่อพัฒนาการศึกษาสำหรับเยาวชน และอีก 10% ถูกกันไว้สำหรับดีไซน์กิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ทุกคนเข้าถึงได้

          ทั้งละครเวที คอนเสิร์ตศิลปินอินดี้ กิจกรรมแลกเปลี่ยนไดอารีของคนทั่วโลก นิตยสารประจำเมือง งานประกวดศิลปวัฒนธรรม และองค์ประกอบยิบย่อยให้หัวข้อศิลปะใหญ่ๆ ที่ถูกวางแผนไว้จนข้ามเดือนข้ามปี และที่สำคัญคือหลายกิจกรรมเข้าร่วมได้ฟรี

          สีสันของวัฒนธรรมที่วางแผนจะสร้างหรือสร้างไปแล้ว มีความหลากหลายและแสดงให้เห็นว่านี่คือเมืองที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกของคนธรรมดา

          ในเว็บไซต์ของเมืองมีโปรแกรมการแสดงศิลปะหลายแขนงพร้อมรายละเอียดของแต่ละงานครบครัน ทั้งศิลปะการแสดงสด ดนตรีแจ๊ส Cafe Musical (คาเฟ่ที่เปิดพื้นที่ให้วงดนตรีออร์เคสตรา) ละครเวที งานแสดงในพิพิธภัณฑ์ ทั้งยังเปิดรับสมัครโปรเจกต์จากศิลปินอิสระ เช่น งาน Square for the Arts เปิดพื้นที่กลางแจ้งให้นักดนตรีอาชีพและมือใหม่มาลับฝีมือกันในวันอาทิตย์แรกของทุกเดือน

          กิจกรรมที่ง่ายแต่เจ๋งก็มีมากมาย เช่น จุดนัดพบบันทึกการเดินทางที่รวมตัวนักเดินทางมือใหม่และมือเก๋ากว่า 100 คนทั่วโลกมาร่วมแชร์และสนทนาเรื่องบันทึกการเดินทางของพวกเขาและเธอในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี หรือ Cafe Lecture คาเฟ่แห่งการจุดไฟปัญญาด้วยความสนุกสนาน ซึ่งนักเขียน นักดนตรี นักอ่าน นักเล่น หรือนักทดลองที่อยากออกแบบกิจกรรมของตัวเองก็สามารถมาใช้พื้นที่ที่นี่ได้ยิ่งพื้นที่ศิลปะ ดนตรี วรรณกรรมเยอะขึ้น ชุมชนก็เริ่มเห็นความสามารถและศักยภาพของตัวตน ดังนั้นสภาพแวดล้อมเหล่านี้จึงเอื้อต่อการถูกยอมรับของปัจเจกได้เป็นอย่างดี

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand
แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

เมืองที่เห็นว่าเด็กคือผ้าขาวที่มีสีสัน

          ‘ตัวตน’ ที่ว่า ยิ่งสร้างตั้งแต่เด็กก็ยิ่งดี ยิ่งทำให้รู้ว่าสีที่สาดมาบนผ้าขาว ไม่ใช่ความเปรอะเลอะเทอะ แต่คือศิลปะแขนงหนึ่งของการใช้ชีวิตและเติบโต

          หลายโปรแกรมที่เมือง แกลร์มง-แฟร็อง ออกแบบเอื้อให้เด็กได้มีพื้นที่เล่นและเรียนรู้อย่างกว้างขวาง พร้อมมอบสิทธิในการเข้าถึงให้ด้วย เช่น การไม่คิดค่าตั๋วละครเวที ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าเวิร์กชอปต่างๆ และแม้แต่ละครเวทีที่มีความเป็นนามธรรม ต้องอาศัยการตีความต่อ เช่น เรื่องการเปิดเปลือยตัวตนต่อโลกที่เห็นและเป็นอยู่ เด็กๆ หรือเยาวชนก็ยังได้รับสิทธิเข้าชมฟรี

          เด็กชั้นอนุบาลกว่า 11,000 คนยังได้รับสิทธิในการใช้ Culture Pass เมื่ออยู่ในการดูแลของครอบครัวหรือพี่น้องในการเข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่กำหนด สนุกสนานได้กับทั้งนิทรรศการชั่วคราวและถาวร ไม่รวมกิจกรรมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้ประโยชน์ทางการศึกษาต่างๆ

          Culture Pass ไม่ใช่แผนที่เพื่อเล่นอย่างเดียว แต่ยังมี Youth City Map ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กๆ อายุตั้งแต่ 12-27 ปีได้ตะลุยไปตามจุดและกิจกรรมต่างๆ ในเมืองที่อวลไปด้วยความสำคัญทางศิลปะ วัฒนธรรม และมีประโยชน์ทางการกีฬา เช่น เข้าพิพิธภัณฑ์ในเมืองได้ฟรีทุกแห่ง เข้าชมภาพยนตร์สั้นบางเรื่องฟรี พบเจอศิลปิน นักแสดงหลังเวที เล่นสกี ขี่จักรยานเสือภูเขา ในราคาที่ถูกลงมาก

          หรือฟรีทั้งหมด!

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

          โปรแกรมงานดนตรีที่ล้นและหลากหลายบ่งบอกได้ว่าเมืองนี้สนับสนุนทั้งนักดนตรีมือสมัครเล่น ศิลปินมืออาชีพ หรือแม้แต่ประชาชนทุกเพศทุกวัยที่สนใจดนตรี และน่าสนใจเป็นพิเศษเมื่อมีโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ เช่น Demos Project ของสถาบันดนตรี Cité de la Musique ที่ทดลองโปรเจกต์มาตั้งแต่ค.ศ. 2017 ร่วมกับวงออร์เคสตรา the Orchestre national d’Auvergne และสมาคมเพื่อนบ้าน 7 สมาคมเพื่อสร้างความเป็นประชาธิปไตยผ่านวัฒนธรรม (Cultural Democratization) โดยการมอบเครื่องดนตรีและสอนเด็กกว่า 105 คนที่เข้าถึงเครื่องดนตรีได้ยาก

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

          ‘One thousand shapes’ family learning project เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่เมืองร่วมทำงานกับศูนย์พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งชาติปงปีดู (National Museum of Modern Art Centre Pompidou) ศิลปินและดีไซเนอร์นานาชาติเพื่อสนับสนุนให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่เรียนรู้ฟรี ครอบครัวมีโอกาสได้เข้าร่วมโปรแกรมด้านศิลปะที่ใช้องค์ความรู้หลากหลายสาขา (Multidisciplinary)

          เด็กๆ จะมีโอกาสได้ใช้ผัสสะครบทุกด้าน ทั้งการสัมผัส ฟัง ดมกลิ่น โดยมีผู้ปกครองเป็นตัวช่วยสำคัญ ในงานอบรม ผู้ปกครองจะได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญต่อการทดลองที่เกิดขึ้นในวันนั้น เพื่อพัฒนาทักษะของลูกต่อไปในอนาคต

          นอกเหนือจากศิลปะ แนวร่วมนี้ยังต่อยอดโครงการโดยการออกแบบการเรียนรู้ที่ไร้ที่สิ้นสุด เช่น หลายปีที่ผ่านมา ผู้คนในเมืองต่างสร้างพื้นที่ ‘ชีวิต’ ร่วมกันผ่านการปลูกไม้ผลบ้าง แบ่งปันพื้นที่สวนบ้าง หรือร่วมปรับแต่งพื้นที่เมืองบ้าง

          แต่ละโครงการจะถูกโหวตจากคนในพื้นที่ ว่าโครงการไหนผ่านหรือไม่ผ่าน ถือว่าเป็นการสร้างการบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participatory Management) ที่ถูกสานต่อมาเรื่อยๆ และเป็นหัวใจของทุกๆ โครงการ

เพราะโครงสร้างเมืองดี จึงมีพื้นที่ให้ปล่อยของ

          โปรเจกต์ใหญ่พัฒนาชุมชนในเมืองที่ Saint-Jacques, Saint-Jean หรือ Vergnes ล้วนให้ความสำคัญกับสมาชิกในชุมชนในการร่วมออกแบบ เดินสำรวจเมือง จัดประชุม หรือรื้อสร้างพื้นที่ใหม่ และนั่นไม่ใช่แค่เสียงของผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมนักเรียน องค์กรเครือข่ายการศึกษา นักออกแบบ และภาคส่วนอื่นๆ เข้าไว้ด้วย

          The InspiRe Project คือตัวอย่างของการพัฒนาการขนส่งและคมนาคมในยุคที่คนเดินถนน นักปั่น หรือพ่อค้า แม่ค้าตามรายทางเริ่มมีความสำคัญน้อยกว่ารถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ โครงการนี้จึงตั้งเป้ามาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงออกแบบพื้นที่ให้เกิดความมั่นคงทางอาหารของคนในชุมชนและเป้าหมายเรื่องความยั่งยืน

          Les Allées du Cardo เป็นอีกตัวอย่างของโครงการที่จะมายกเครื่องสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่ต่างๆ ให้กลายเป็นซอกซอยแห่งความรู้และศิลปะตามแบบฉบับเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป 2028 (European Capital of Culture 2028) โดยเชื่อมกองทุนศิลปะร่วมสมัย ห้องสมุดเมือง พิพิธภัณฑ์ สิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่สวนเอาไว้บริการผู้คน

          ในภาพกว้าง โครงการนี้ได้นักออกแบบด้านภูมิทัศน์และการวางผังเมืองมากำกับโครงการเพื่อแก้โจทย์เรื่องความยั่งยืน เช่น ปรับใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุท้องถิ่นเพื่อประดับเมือง ปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียว สร้างทางจักรยาน ปรับทางเท้าให้กว้างขึ้นเพื่อให้เมืองเดินได้ ครอบครัวเดินดี

          แต่นั่นคือการเปลี่ยนแปลงระดับนโยบายที่หลายเมืองในโลกก็กำลังพยายามทำรวมถึงที่ประเทศไทยด้วย เราเห็นโครงการพัฒนาสวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่สีเขียวมาในระยะเวลาหลายปี แต่จุดสำคัญของการรื้อสร้างพื้นที่เหล่านี้ คือการสร้างระบบนิเวศให้กับชุมชนนั้นๆ ด้วย

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

สนับสนุนความรู้คู่กับความเท่าเทียม

          ในฐานะที่เมือง แกลร์มง-แฟร็อง คลอดนักวิจัยออกมาจำนวนมาก โครงการประกวดนักวิจัยของเมือง จึงเป็นหนึ่งในการบ่มเพาะเยาวชนเนิร์ด ฝึกฝนให้เด็กที่ได้รับคัดเลือกมีโอกาสนำเสนองานวิจัยของตัวเอง ขัดเกลาทักษะการสื่อสารด้วยหลักสูตรและการทดสอบที่ถือว่าโหดหิน เพราะเชื่อมั่นว่าเด็กจะพัฒนาได้ผ่านความสงสัยใคร่รู้ ความกระตือรือร้นของตัวเอง และต้องเรียนรู้วิธีการที่จะสื่อสารนวัตกรรมการทดลองที่มีแนวโน้มที่จะผิดพลาดได้

          หากเข้าไปในเว็บไซต์ Ville de Clermont-Ferrand จะเห็นว่าในหัวข้อ Your City Hall มีข้อมูลมากมายในระดับนโยบาย คณะทำงาน การจ้างงาน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชี้แจงชัดเจนว่าเครื่องมือของการบริหารเมืองเมืองหนึ่งให้เป็นประชาธิปไตย ทุกคนสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียมกันมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น การจัดประชุมสาธารณะ การจัดเวิร์กชอปสร้างการมีส่วนร่วม สภากาแฟ แบบสอบถามออนไลน์

          สมาชิกชุมชนต้องร่วมกันสังเกตการณ์หลักการการบริหารและธรรมมาภิบาลของผู้นำชุมชนหรือนายกเทศมนตรีของพวกเขา Observatory Commitments หรือคณะผู้สังเกตการณ์ที่เป็นอิสระ มีสิทธิในการควบคุมการใช้ภาษีในเมืองและร่วมจัดสรรงบประมาณเมื่อมีสมาชิกอยากเสนอโครงการที่น่าสนใจใดๆ ก็ตาม

          ความโปร่งใสและความชอบธรรมในการจัดสรรเงินถือเป็นหัวใจหลักที่เมืองจะเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีชีวิตชีวาและเท่าทันโลก คณะกรรมการของเมือง แกลร์มง-แฟร็อง จึงต้องประชุมกับนายกเทศมนตรีถึงการจัดสรรงบประมาณ คนในชุมชนจึงจะมีโอกาสได้รู้ว่าโครงการที่อยากเสนอหรือมีส่วนร่วมดำเนินการไปอย่างไร โหวตให้ผ่านหรือไม่

          โมเดลการตรวจสอบนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 มีโครงการนำเสนอไปแล้วทั้งสิ้น 948 โครงการและได้โครงการผู้ชนะมาแล้ว 32 โครงการ เช่น โครงการรถอาบน้ำสำหรับคนไร้บ้าน (The Whole City: Shower Truck for the Homeless) หรือพื้นที่จัดแสดงงานและที่พำนักสำหรับศิลปิน  (Cathedral, Delille, La Gare: Space for Exhibitions and Artist Residencies)

          จุดมุ่งหมายหลักของ แกลร์มง-แฟร็อง คือการสร้างการเรียนรู้ที่ยั่งยืนผ่านนโยบายสาธารณะต่างๆ การมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วนโดยใช้ทรัพยากรที่มีขับเคลื่อนแรงบันดาลใจและความเป็นชีวิตของคนในชุมชน

          นโยบายเหล่านี้ต่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เน้นธรรมาภิบาล

          ที่สำคัญคือการเข้าถึงความรู้ จึงที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเมืองที่มีความยืดหยุ่น (Resilient City) ปรับตัวเร็วต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงเป็นมิลลิวินาที และสร้างพลเมืองที่ตระหนักรู้ถึงคุณค่าที่แตกต่างของตัวเองในฐานะพลเมืองโลก

          ดังนั้นอีกคุณค่าหนึ่งของเมืองจึงเป็นการสร้างมาตรฐานของการเป็นพลเมืองโลก ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและความสนุกสนานไปในตัว เพราะถึงแม้จะรวมมวลชนให้มีความเห็นที่เหมือนกันได้ยากหากโปรเจกต์เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เด็กๆ จะได้มีกิจกรรมที่หลากหลายในการเล่น ตั้งแต่ดูหนัง เล่นดนตรี เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ลองเป็นนักวิจัย ในขณะที่ผู้ใหญ่จะได้ร่วมตรวจสอบการบริหารงานของเทศบาล ออกแบบนโยบาย และหาเป้าหมายของเมืองไปพร้อมๆ กัน

          ประโยค “There are volcanoes, and that’s really classy” จึงน่าปรับเป็น “There are people, and that’s really classy” คุณจะเป็นใครก็ได้ จะเป็นเยาวชน เป็นพ่อแม่ นักท่องเที่ยว นักข่าว หรือเป็นประชาการที่ย้ายมาใหม่ก็ไม่ติด เพราะเมือง แกลร์มง-แฟร็อง ชี้ให้เห็นแล้วว่า ผู้คนคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับการใช้ความสร้างสรรค์ผ่านนโยบายจากภาครัฐที่ผนวกรวมประชาชนเข้าไปในพื้นที่สาธารณะ โดยไม่คัดใครทิ้งไว้เบื้องหลัง


ที่มา

บทความ “7 good reasons to come to study in Clermont-Ferrand” จาก erasmusu.com (Online)

เว็บไซต์ Ville de Clermont-Ferrand (Online)

บทความ “UNESCO learning city of Clermont-Ferrand: ‘One thousand shapes’ family learning project” (Online)

A Collaborative Methodology for the Entire Leaning City (Online)

Cover Photo : Ville de Clermont-Ferrand

Tags: LearningCity

เรื่องโดย

1.2k
VIEWS
ณัฐชานันท์ กล้าหาญ เรื่อง

ชอบทำอะไรหลายอย่าง ทั้งเขียน แปล ถ่ายรูป ลงพื้นที่ทำสารคดี  ปัจจุบันเป็นผู้ประสานโครงการการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย และเขียนงานที่สนใจเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกับ ไอแอลไอยู

          “There are volcanoes, and that’s really classy” คือหนึ่งในคำแนะนำของบล็อกในเว็บไซต์อีราสมุส (Erasmus+ โครงการให้ทุนการศึกษาของสหภาพยุโรป) ที่เขียนไว้เพื่ออธิบายเมือง แกลร์มง-แฟร็อง (Clermont-Ferrand) ประเทศฝรั่งเศส แปลได้ว่า “เมืองเรามีภูเขาไฟด้วยนะ มันเลิศมากเลยล่ะ”

          แกลร์มง-แฟร็อง เป็นเมืองที่น่าอยู่ทีเดียวในเว็บไซต์นำเที่ยวต่างๆ นอกจากภูเขาไฟที่มียอดตัดเพราะลาวาเย็นตัว ก็มีข้อเด่นทางด้านทะเลสาบสวยงามในฤดูร้อน เส้นทางปีนเขาวิวดี กิจกรรมกีฬาเข้าถึงง่ายในเมือง

          สำนักงานใหญ่ของบริษัทขายยางมิชลินตั้งอยู่ที่นี่ และยังเป็นเมืองที่บรรยากาศทางการศึกษาดีเยี่ยม เพราะนักศึกษาเลือกมาศึกษาที่นี่เป็นอันดับต้นๆ

          แต่เอกลักษณ์หนึ่งที่ทำให้ แกลร์มง-แฟร็อง สดใสและมีผู้คนจากทั่วโลกแวะเวียนเข้ามาร่วมกิจกรรม คือการมีพื้นที่ทางศิลปะที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้คนในชุมชนร่วมดีไซน์และเล่นสนุก

          แถมยังมีโปรแกรมละครเวทีมียาวเหยียด มหกรรมดนตรีไม่เคยขาดตอน บทกลอนและการอ่านวรรณกรรมก็ยังมีไว้ให้เป็นตัวเลือกเสมอ

          วัฒนธรรมทั้งเก่าและใหม่ที่หลายฝ่ายร่วมกันสร้างเป็นทั้งสีสันและช่วงเวลาระหว่างวัน นาที วินาทีที่ดีของทั้งผู้อยู่อาศัยและผู้มาเยือน

Clermont-Ferrand

ที่นี่ ศิลปะเดินทางมาหาผู้คน

          แกลร์มง-แฟร็อง เป็น ‘เมืองแห่งการเรียนรู้’ หรือ Learning City แห่งแรกในประเทศฝรั่งเศสที่อยู่ในเครือข่ายระดับโลกด้านเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก (The UNESCO Global Network of Learning Cities – GNLC) ที่มีข้อได้เปรียบอย่างแรกคือบริษัทถึง 25,000 แห่ง นักเรียน 35,000 คน นักวิจัย 1,300 คนพร้อมห้องแล็บวิจัย 35 แห่ง การบ่มเพาะธุรกิจ (Business Incubator) อีกหลายโครงการที่มีงบประมาณไว้ราว 43% เพื่อพัฒนาการศึกษาสำหรับเยาวชน และอีก 10% ถูกกันไว้สำหรับดีไซน์กิจกรรมทางวัฒนธรรมที่ทุกคนเข้าถึงได้

          ทั้งละครเวที คอนเสิร์ตศิลปินอินดี้ กิจกรรมแลกเปลี่ยนไดอารีของคนทั่วโลก นิตยสารประจำเมือง งานประกวดศิลปวัฒนธรรม และองค์ประกอบยิบย่อยให้หัวข้อศิลปะใหญ่ๆ ที่ถูกวางแผนไว้จนข้ามเดือนข้ามปี และที่สำคัญคือหลายกิจกรรมเข้าร่วมได้ฟรี

          สีสันของวัฒนธรรมที่วางแผนจะสร้างหรือสร้างไปแล้ว มีความหลากหลายและแสดงให้เห็นว่านี่คือเมืองที่ให้ความสำคัญกับการแสดงออกของคนธรรมดา

          ในเว็บไซต์ของเมืองมีโปรแกรมการแสดงศิลปะหลายแขนงพร้อมรายละเอียดของแต่ละงานครบครัน ทั้งศิลปะการแสดงสด ดนตรีแจ๊ส Cafe Musical (คาเฟ่ที่เปิดพื้นที่ให้วงดนตรีออร์เคสตรา) ละครเวที งานแสดงในพิพิธภัณฑ์ ทั้งยังเปิดรับสมัครโปรเจกต์จากศิลปินอิสระ เช่น งาน Square for the Arts เปิดพื้นที่กลางแจ้งให้นักดนตรีอาชีพและมือใหม่มาลับฝีมือกันในวันอาทิตย์แรกของทุกเดือน

          กิจกรรมที่ง่ายแต่เจ๋งก็มีมากมาย เช่น จุดนัดพบบันทึกการเดินทางที่รวมตัวนักเดินทางมือใหม่และมือเก๋ากว่า 100 คนทั่วโลกมาร่วมแชร์และสนทนาเรื่องบันทึกการเดินทางของพวกเขาและเธอในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี หรือ Cafe Lecture คาเฟ่แห่งการจุดไฟปัญญาด้วยความสนุกสนาน ซึ่งนักเขียน นักดนตรี นักอ่าน นักเล่น หรือนักทดลองที่อยากออกแบบกิจกรรมของตัวเองก็สามารถมาใช้พื้นที่ที่นี่ได้ยิ่งพื้นที่ศิลปะ ดนตรี วรรณกรรมเยอะขึ้น ชุมชนก็เริ่มเห็นความสามารถและศักยภาพของตัวตน ดังนั้นสภาพแวดล้อมเหล่านี้จึงเอื้อต่อการถูกยอมรับของปัจเจกได้เป็นอย่างดี

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand
แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

เมืองที่เห็นว่าเด็กคือผ้าขาวที่มีสีสัน

          ‘ตัวตน’ ที่ว่า ยิ่งสร้างตั้งแต่เด็กก็ยิ่งดี ยิ่งทำให้รู้ว่าสีที่สาดมาบนผ้าขาว ไม่ใช่ความเปรอะเลอะเทอะ แต่คือศิลปะแขนงหนึ่งของการใช้ชีวิตและเติบโต

          หลายโปรแกรมที่เมือง แกลร์มง-แฟร็อง ออกแบบเอื้อให้เด็กได้มีพื้นที่เล่นและเรียนรู้อย่างกว้างขวาง พร้อมมอบสิทธิในการเข้าถึงให้ด้วย เช่น การไม่คิดค่าตั๋วละครเวที ค่าเข้าพิพิธภัณฑ์ ค่าเข้าเวิร์กชอปต่างๆ และแม้แต่ละครเวทีที่มีความเป็นนามธรรม ต้องอาศัยการตีความต่อ เช่น เรื่องการเปิดเปลือยตัวตนต่อโลกที่เห็นและเป็นอยู่ เด็กๆ หรือเยาวชนก็ยังได้รับสิทธิเข้าชมฟรี

          เด็กชั้นอนุบาลกว่า 11,000 คนยังได้รับสิทธิในการใช้ Culture Pass เมื่ออยู่ในการดูแลของครอบครัวหรือพี่น้องในการเข้าพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ที่กำหนด สนุกสนานได้กับทั้งนิทรรศการชั่วคราวและถาวร ไม่รวมกิจกรรมพิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้ประโยชน์ทางการศึกษาต่างๆ

          Culture Pass ไม่ใช่แผนที่เพื่อเล่นอย่างเดียว แต่ยังมี Youth City Map ที่เปิดพื้นที่ให้เด็กๆ อายุตั้งแต่ 12-27 ปีได้ตะลุยไปตามจุดและกิจกรรมต่างๆ ในเมืองที่อวลไปด้วยความสำคัญทางศิลปะ วัฒนธรรม และมีประโยชน์ทางการกีฬา เช่น เข้าพิพิธภัณฑ์ในเมืองได้ฟรีทุกแห่ง เข้าชมภาพยนตร์สั้นบางเรื่องฟรี พบเจอศิลปิน นักแสดงหลังเวที เล่นสกี ขี่จักรยานเสือภูเขา ในราคาที่ถูกลงมาก

          หรือฟรีทั้งหมด!

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

          โปรแกรมงานดนตรีที่ล้นและหลากหลายบ่งบอกได้ว่าเมืองนี้สนับสนุนทั้งนักดนตรีมือสมัครเล่น ศิลปินมืออาชีพ หรือแม้แต่ประชาชนทุกเพศทุกวัยที่สนใจดนตรี และน่าสนใจเป็นพิเศษเมื่อมีโปรแกรมที่ออกแบบมาเพื่อเด็กโดยเฉพาะ เช่น Demos Project ของสถาบันดนตรี Cité de la Musique ที่ทดลองโปรเจกต์มาตั้งแต่ค.ศ. 2017 ร่วมกับวงออร์เคสตรา the Orchestre national d’Auvergne และสมาคมเพื่อนบ้าน 7 สมาคมเพื่อสร้างความเป็นประชาธิปไตยผ่านวัฒนธรรม (Cultural Democratization) โดยการมอบเครื่องดนตรีและสอนเด็กกว่า 105 คนที่เข้าถึงเครื่องดนตรีได้ยาก

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

          ‘One thousand shapes’ family learning project เป็นอีกหนึ่งในโครงการที่เมืองร่วมทำงานกับศูนย์พิพิธภัณฑ์ศิลปะสมัยใหม่แห่งชาติปงปีดู (National Museum of Modern Art Centre Pompidou) ศิลปินและดีไซเนอร์นานาชาติเพื่อสนับสนุนให้เด็กๆ ได้มีพื้นที่เรียนรู้ฟรี ครอบครัวมีโอกาสได้เข้าร่วมโปรแกรมด้านศิลปะที่ใช้องค์ความรู้หลากหลายสาขา (Multidisciplinary)

          เด็กๆ จะมีโอกาสได้ใช้ผัสสะครบทุกด้าน ทั้งการสัมผัส ฟัง ดมกลิ่น โดยมีผู้ปกครองเป็นตัวช่วยสำคัญ ในงานอบรม ผู้ปกครองจะได้หารือกับผู้เชี่ยวชาญต่อการทดลองที่เกิดขึ้นในวันนั้น เพื่อพัฒนาทักษะของลูกต่อไปในอนาคต

          นอกเหนือจากศิลปะ แนวร่วมนี้ยังต่อยอดโครงการโดยการออกแบบการเรียนรู้ที่ไร้ที่สิ้นสุด เช่น หลายปีที่ผ่านมา ผู้คนในเมืองต่างสร้างพื้นที่ ‘ชีวิต’ ร่วมกันผ่านการปลูกไม้ผลบ้าง แบ่งปันพื้นที่สวนบ้าง หรือร่วมปรับแต่งพื้นที่เมืองบ้าง

          แต่ละโครงการจะถูกโหวตจากคนในพื้นที่ ว่าโครงการไหนผ่านหรือไม่ผ่าน ถือว่าเป็นการสร้างการบริหารแบบมีส่วนร่วม (Participatory Management) ที่ถูกสานต่อมาเรื่อยๆ และเป็นหัวใจของทุกๆ โครงการ

เพราะโครงสร้างเมืองดี จึงมีพื้นที่ให้ปล่อยของ

          โปรเจกต์ใหญ่พัฒนาชุมชนในเมืองที่ Saint-Jacques, Saint-Jean หรือ Vergnes ล้วนให้ความสำคัญกับสมาชิกในชุมชนในการร่วมออกแบบ เดินสำรวจเมือง จัดประชุม หรือรื้อสร้างพื้นที่ใหม่ และนั่นไม่ใช่แค่เสียงของผู้ใหญ่เพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมนักเรียน องค์กรเครือข่ายการศึกษา นักออกแบบ และภาคส่วนอื่นๆ เข้าไว้ด้วย

          The InspiRe Project คือตัวอย่างของการพัฒนาการขนส่งและคมนาคมในยุคที่คนเดินถนน นักปั่น หรือพ่อค้า แม่ค้าตามรายทางเริ่มมีความสำคัญน้อยกว่ารถยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ โครงการนี้จึงตั้งเป้ามาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ รวมถึงออกแบบพื้นที่ให้เกิดความมั่นคงทางอาหารของคนในชุมชนและเป้าหมายเรื่องความยั่งยืน

          Les Allées du Cardo เป็นอีกตัวอย่างของโครงการที่จะมายกเครื่องสิ่งแวดล้อมในเขตพื้นที่ต่างๆ ให้กลายเป็นซอกซอยแห่งความรู้และศิลปะตามแบบฉบับเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมยุโรป 2028 (European Capital of Culture 2028) โดยเชื่อมกองทุนศิลปะร่วมสมัย ห้องสมุดเมือง พิพิธภัณฑ์ สิ่งอำนวยความสะดวกในมหาวิทยาลัย หรือแม้แต่สวนเอาไว้บริการผู้คน

          ในภาพกว้าง โครงการนี้ได้นักออกแบบด้านภูมิทัศน์และการวางผังเมืองมากำกับโครงการเพื่อแก้โจทย์เรื่องความยั่งยืน เช่น ปรับใช้วัสดุรีไซเคิลและวัสดุท้องถิ่นเพื่อประดับเมือง ปลูกต้นไม้เพิ่มเพื่อสร้างพื้นที่สีเขียว สร้างทางจักรยาน ปรับทางเท้าให้กว้างขึ้นเพื่อให้เมืองเดินได้ ครอบครัวเดินดี

          แต่นั่นคือการเปลี่ยนแปลงระดับนโยบายที่หลายเมืองในโลกก็กำลังพยายามทำรวมถึงที่ประเทศไทยด้วย เราเห็นโครงการพัฒนาสวนสาธารณะให้เป็นพื้นที่สีเขียวมาในระยะเวลาหลายปี แต่จุดสำคัญของการรื้อสร้างพื้นที่เหล่านี้ คือการสร้างระบบนิเวศให้กับชุมชนนั้นๆ ด้วย

แกลร์มง-แฟร็อง เมืองที่ให้ทุกคนหยิบศิลปะมาเปลี่ยนเมือง
Photo : Ville de Clermont-Ferrand

สนับสนุนความรู้คู่กับความเท่าเทียม

          ในฐานะที่เมือง แกลร์มง-แฟร็อง คลอดนักวิจัยออกมาจำนวนมาก โครงการประกวดนักวิจัยของเมือง จึงเป็นหนึ่งในการบ่มเพาะเยาวชนเนิร์ด ฝึกฝนให้เด็กที่ได้รับคัดเลือกมีโอกาสนำเสนองานวิจัยของตัวเอง ขัดเกลาทักษะการสื่อสารด้วยหลักสูตรและการทดสอบที่ถือว่าโหดหิน เพราะเชื่อมั่นว่าเด็กจะพัฒนาได้ผ่านความสงสัยใคร่รู้ ความกระตือรือร้นของตัวเอง และต้องเรียนรู้วิธีการที่จะสื่อสารนวัตกรรมการทดลองที่มีแนวโน้มที่จะผิดพลาดได้

          หากเข้าไปในเว็บไซต์ Ville de Clermont-Ferrand จะเห็นว่าในหัวข้อ Your City Hall มีข้อมูลมากมายในระดับนโยบาย คณะทำงาน การจ้างงาน ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ชี้แจงชัดเจนว่าเครื่องมือของการบริหารเมืองเมืองหนึ่งให้เป็นประชาธิปไตย ทุกคนสามารถเข้าถึงทรัพยากรได้อย่างเท่าเทียมกันมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เช่น การจัดประชุมสาธารณะ การจัดเวิร์กชอปสร้างการมีส่วนร่วม สภากาแฟ แบบสอบถามออนไลน์

          สมาชิกชุมชนต้องร่วมกันสังเกตการณ์หลักการการบริหารและธรรมมาภิบาลของผู้นำชุมชนหรือนายกเทศมนตรีของพวกเขา Observatory Commitments หรือคณะผู้สังเกตการณ์ที่เป็นอิสระ มีสิทธิในการควบคุมการใช้ภาษีในเมืองและร่วมจัดสรรงบประมาณเมื่อมีสมาชิกอยากเสนอโครงการที่น่าสนใจใดๆ ก็ตาม

          ความโปร่งใสและความชอบธรรมในการจัดสรรเงินถือเป็นหัวใจหลักที่เมืองจะเคลื่อนต่อไปได้อย่างมีชีวิตชีวาและเท่าทันโลก คณะกรรมการของเมือง แกลร์มง-แฟร็อง จึงต้องประชุมกับนายกเทศมนตรีถึงการจัดสรรงบประมาณ คนในชุมชนจึงจะมีโอกาสได้รู้ว่าโครงการที่อยากเสนอหรือมีส่วนร่วมดำเนินการไปอย่างไร โหวตให้ผ่านหรือไม่

          โมเดลการตรวจสอบนี้เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2017 มีโครงการนำเสนอไปแล้วทั้งสิ้น 948 โครงการและได้โครงการผู้ชนะมาแล้ว 32 โครงการ เช่น โครงการรถอาบน้ำสำหรับคนไร้บ้าน (The Whole City: Shower Truck for the Homeless) หรือพื้นที่จัดแสดงงานและที่พำนักสำหรับศิลปิน  (Cathedral, Delille, La Gare: Space for Exhibitions and Artist Residencies)

          จุดมุ่งหมายหลักของ แกลร์มง-แฟร็อง คือการสร้างการเรียนรู้ที่ยั่งยืนผ่านนโยบายสาธารณะต่างๆ การมีส่วนร่วมของประชาชนและทุกภาคส่วนโดยใช้ทรัพยากรที่มีขับเคลื่อนแรงบันดาลใจและความเป็นชีวิตของคนในชุมชน

          นโยบายเหล่านี้ต่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เน้นธรรมาภิบาล

          ที่สำคัญคือการเข้าถึงความรู้ จึงที่เป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาเมืองที่มีความยืดหยุ่น (Resilient City) ปรับตัวเร็วต่อโลกที่เปลี่ยนแปลงเป็นมิลลิวินาที และสร้างพลเมืองที่ตระหนักรู้ถึงคุณค่าที่แตกต่างของตัวเองในฐานะพลเมืองโลก

          ดังนั้นอีกคุณค่าหนึ่งของเมืองจึงเป็นการสร้างมาตรฐานของการเป็นพลเมืองโลก ซึ่งเป็นทั้งความท้าทายและความสนุกสนานไปในตัว เพราะถึงแม้จะรวมมวลชนให้มีความเห็นที่เหมือนกันได้ยากหากโปรเจกต์เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อเริ่มเป็นรูปเป็นร่าง เด็กๆ จะได้มีกิจกรรมที่หลากหลายในการเล่น ตั้งแต่ดูหนัง เล่นดนตรี เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ลองเป็นนักวิจัย ในขณะที่ผู้ใหญ่จะได้ร่วมตรวจสอบการบริหารงานของเทศบาล ออกแบบนโยบาย และหาเป้าหมายของเมืองไปพร้อมๆ กัน

          ประโยค “There are volcanoes, and that’s really classy” จึงน่าปรับเป็น “There are people, and that’s really classy” คุณจะเป็นใครก็ได้ จะเป็นเยาวชน เป็นพ่อแม่ นักท่องเที่ยว นักข่าว หรือเป็นประชาการที่ย้ายมาใหม่ก็ไม่ติด เพราะเมือง แกลร์มง-แฟร็อง ชี้ให้เห็นแล้วว่า ผู้คนคือหัวใจสำคัญของการพัฒนาเมืองควบคู่ไปกับการใช้ความสร้างสรรค์ผ่านนโยบายจากภาครัฐที่ผนวกรวมประชาชนเข้าไปในพื้นที่สาธารณะ โดยไม่คัดใครทิ้งไว้เบื้องหลัง


ที่มา

บทความ “7 good reasons to come to study in Clermont-Ferrand” จาก erasmusu.com (Online)

เว็บไซต์ Ville de Clermont-Ferrand (Online)

บทความ “UNESCO learning city of Clermont-Ferrand: ‘One thousand shapes’ family learning project” (Online)

A Collaborative Methodology for the Entire Leaning City (Online)

Cover Photo : Ville de Clermont-Ferrand

Tags: LearningCity

ณัฐชานันท์ กล้าหาญ เรื่อง

ชอบทำอะไรหลายอย่าง ทั้งเขียน แปล ถ่ายรูป ลงพื้นที่ทำสารคดี  ปัจจุบันเป็นผู้ประสานโครงการการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย และเขียนงานที่สนใจเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกับ ไอแอลไอยู

Related Posts

เปิดสนามความสนุก ห้องสมุดกับอุตสาหกรรมอีสปอร์ต
Common WORLD

เปิดสนามความสนุก ห้องสมุดกับอุตสาหกรรม E-Sport

March 13, 2023
397
‘Bibliotourism’ ดึงห้องสมุดเชื่อมโยงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจีน
Common WORLD

‘Bibliotourism’ เชื่อมโยงห้องสมุดกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

March 9, 2023
1.5k
จับจ้องมองสิทธิสตรีอิหร่าน ผ่านศิลปะบาทวิถีในพื้นที่สาธารณะ
Common WORLD

จับจ้องมองสิทธิสตรีอิหร่าน ผ่านศิลปะบาทวิถีบนพื้นที่สาธารณะ

March 2, 2023
566

Related Posts

เปิดสนามความสนุก ห้องสมุดกับอุตสาหกรรมอีสปอร์ต
Common WORLD

เปิดสนามความสนุก ห้องสมุดกับอุตสาหกรรม E-Sport

March 13, 2023
397
‘Bibliotourism’ ดึงห้องสมุดเชื่อมโยงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจีน
Common WORLD

‘Bibliotourism’ เชื่อมโยงห้องสมุดกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว

March 9, 2023
1.5k
จับจ้องมองสิทธิสตรีอิหร่าน ผ่านศิลปะบาทวิถีในพื้นที่สาธารณะ
Common WORLD

จับจ้องมองสิทธิสตรีอิหร่าน ผ่านศิลปะบาทวิถีบนพื้นที่สาธารณะ

March 2, 2023
566
ABOUT
SITE MAP
PRIVACY POLICY
CONTACT
Facebook-f
Youtube
Soundcloud
icon-tkpark

Copyright 2021 © All rights Reserved. by TK Park

  • READ
    • ALL
    • Common WORLD
    • Common VIEW
    • Common ROOM
    • Book of Commons
    • Common INFO
  • PODCAST
    • ALL
    • readWORLD
    • Coming to Talk
    • Read Around
    • WanderingBook
    • Knowledge Exchange
  • VIDEO
    • ALL
    • TK Forum
    • TK Common
    • TK Spark
  • UNCOMMON
    • ALL
    • Common ROOM
    • Common INFO
    • Common EXPERIENCE
    • Common SENSE

© 2021 The KOMMON by TK Park.

Welcome Back!

Login to your account below

Forgotten Password?

Retrieve your password

Please enter your username or email address to reset your password.

Log In

Add New Playlist

The KOMMON มีการใช้คุกกี้ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ไปวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่า อนุญาต
Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก
Privacy Preferences
https://www.thekommon.co/network/cache/breeze-minification/js/breeze_42425fd89a06bbce6d8f212c120f5b9c.js