‘ยอดมนุษย์วายป่วง’ ความรักของเหล่าคนโง่ที่กำลังเรียนรู้วิธีตก

1,236 views
5 mins
April 18, 2023

          “เราไม่ได้ตกหลุมรักใครเพราะเพศสภาพ อันนา-ลีนา เราตกหลุมรักเพราะคนคนนั้นเป็นคนโง่ต่างหาก” ยูเลีย หนึ่งในตัวละครพูดไว้อย่างนั้น

          ถ้าคุณชอบขีดเส้นใต้ถ้อยคำกินใจเวลาอ่านหนังสือ ‘Anxious People’ หรือ ‘ยอดมนุษย์วายป่วง’ ก็น่าจะเหมาะกับคุณ

          ผลงานของนักเขียนชาวสวีเดน Fredrik Backman ได้รับการถ่ายทอดเป็นภาษาไทย ก่อนหน้านี้มี 2 เล่มคือ ชายชื่ออูเว (A Man Called Ove) และ บริทท์มารีอยู่ตรงนี้ (Britt-Marie Was Here) ได้ยินว่าหลายคนหลงรักทั้งสองเรื่อง

          บทนำของสำนักพิมพ์เขียนว่า

          ‘ในเล่ม เราจะได้เห็นผู้คนมากมายและความวิตกกังวลของพวกเขา…พูดง่ายๆ ความวิตกกังวลที่เป็นพื้นฐานของตัวละครแทบทุกคนในเรื่องคือ กลัวว่าเราจะดีไม่พอสำหรับคนที่เรารัก’

          ก่อนอ่าน ผมเข้าใจไปว่ามันคงเป็นนวนิยายว่าด้วยมนุษย์ขี้กังวลและความวิตกกังวลหลากรูปแบบ แต่ไม่ใช่ สำหรับผม มันไม่ใช่เรื่องความวิตกกังวล มันเป็นเรื่องราวว่าด้วยความรักอันมากมายที่เล่าผ่านความวายป่วงที่เกิดจากความรักอันมากมายนั้น

          หรือจริงๆ แล้ว ความรักกับความวิตกกังวลเป็นของคู่กันมาตลอด?

          เขาจะคิดเหมือนฉันหรือเปล่า? เขาไม่พอใจอะไรฉันหรือเปล่า? ฉันพูดอะไรผิดไปบ้างหรือเปล่า? ถ้าฉันชวนเขาไปดูหนัง เขาจะปฏิเสธฉันไหม? ฯลฯ เมื่อความรักผลิบานเป็นครอบครัว ความวิตกกังวลก็จะเริ่มเปลี่ยนคำถาม เราจะไปกันรอดไหม? เราจะเลี้ยงลูกยังไง? ฉันจะหาเงินได้มากพอเพื่อครอบครัวได้หรือเปล่า? ฯลฯ

          ทั้งหมดทั้งมวลของความกังวลอันไม่รู้จักจบสิ้นรวบตึงลงเหลือเพียงหนึ่งคำถาม

          “ฉันดีพอหรือเปล่า?” ที่จะได้รับความรักและรักใครสักคน เป็นคำถามที่สั่นคลอนก้นบึ้งตัวตนของเราอย่างรุนแรง

          10 ปีก่อน ชายคนหนึ่งกระโดดลงจากสะพานภายหลังสูญเสียทรัพย์สินทั้งหมดให้แก่ธนาคารในวิกฤตซับไพรม์ ความมั่งคั่งที่เขาตั้งใจเก็บออมเพื่อลูกๆ 2 คนหายวับไปกับตาเพียงเพราะคำโกหกพกลมของธนาคารว่าการลงทุนนี้ ‘ไม่มีความเสี่ยง’ พร้อมกันนั้น ความเป็นพ่อที่ดี พ่อที่คู่ควรก็แตกสลายลงไปด้วยอย่างมิอาจกอบกู้

          ความตายของชายนิรนามร้อยโยงคนสามสี่คนเข้าด้วยกันในอีก 10 ปีต่อมา

          โจรปล้นธนาคารถือปืนที่ตัวเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนจริงหรือปืนปลอมบุกเข้าปล้นธนาคารแบบไร้เงินสด ระบุเจาะจงว่าต้องการเงิน 6,500 โครนา หรือราวๆ 20,000 บาท ไม่มีโจรปล้นธนาคารสติดีคนไหนเดิมพันอิสรภาพในชีวิตกับเงิน 6,500 โครนาหรอก

          เป็นไปได้ว่าโจรสติไม่ดี ทว่า เบื้องหลังของความไม่สมประกอบ ความไร้เหตุผลก็ยังคงเป็นความรัก

‘ยอดมนุษย์วายป่วง’ ความรักของเหล่าคนโง่ที่กำลังเรียนรู้วิธีตก

          ทุกอย่างผิดแผน อันที่จริงโจรปล้นธนาคารไม่มีแผนตั้งแต่ต้น จำต้องหนีเข้าไปในอพาร์ตเมนต์ที่เปิดให้ผู้สนใจซื้อเยี่ยมชม จบลงด้วยการจับคนเหล่านั้นเป็นตัวประกัน ความโชคร้าย(?) คือตัวประกันทุกคนเป็นตัวประกันที่แย่มากและเป็นคนโง่

          นาเดียเป็นตัวละครหนึ่ง เธอมีอาชีพเป็นนักจิตวิทยาที่ทำการบำบัดให้ซอรา หนึ่งในตัวประกันและเป็นตัวละครที่ผมชื่นชอบ ซอราถามนาเดียว่าทำไมคนเรามักตัดสินใจทำอะไรโง่ๆ นาเดียตอบว่า

          “สิ่งที่มนุษย์เป็นมนุษย์มากที่สุดเกี่ยวกับความวิตกกังวลคือ เราพยายามแก้ไขความวุ่นวายด้วยความวุ่นวาย คนที่พาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับสถานการณ์เลวร้ายแทบไม่เคยถอยออกมา เรามีแนวโน้มที่จะถลำลึกเร็วขึ้นด้วยซ้ำ เราสร้างชีวิตในที่ที่สามารถมองเห็นคนอื่นพุ่งชนกำแพง แต่ยังคงหวังว่าตนเองจะเดินทะลุกำแพงนั้นได้ ยิ่งใกล้เราก็ยิ่งเชื่ออย่างมั่นใจว่าทางออกที่ไม่น่าจะเป็นไปได้จะช่วยชีวิตเราไว้อย่างเป็นปาฏิหาริย์ ขณะที่ทุกคนเฝ้ามองเราเพียงแค่เฝ้ารอให้เราพุ่งชน

          “ฉันเชื่อทฤษฎีหนึ่งที่บอกว่า ถ้าเราทำมานานพอ สุดท้ายเราจะไม่มีทางบอกความแตกต่างระหว่างการบินกับการตก”

          พวกเราส่วนใหญ่กระเสือกกระสนจะเป็นตัวเองในแบบที่ดีขึ้นยามที่มีความรัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนที่ชีวิตกำลังวิ่งชนกำแพง เราจึงเผลอไผลทำเรื่องร้ายแรง โกหกหลอกลวง ก็เพราะเชื่อว่ามันคุ้มค่า หรือบางทีเราแค่ยังหาวิธีแสดงความรักไม่เจอ หรือบางทีเราแค่มีวิธีของเราเอง สุดท้าย เป็นไปได้ว่าคนอื่นจะมองต่าง ว่ามันก็แค่ความเห็นแก่ตัว ซึ่งมีเพียงเวลาเท่านั้นจะเป็นเครื่องพิสูจน์และไม่มีใครตัดสินได้นอกจากคนสองคนหรือมากกว่านั้นอีกนิดหน่อย

          ในหนังสือ ‘Anxious People’ บางคนกำลังตกอย่างแรง บ้างกำลังหัดบิน ส่วนบางคนยังไม่เริ่มตกเลยด้วยซ้ำ เมื่อต้องมาอยู่ร่วมในสถานการณ์เดียวกัน พลั้งเผลอฟังเรื่องราวของกันและกัน ตระหนักว่าใครๆ ก็ทำเรื่องโง่ๆ เพราะความรักกันได้ทั้งนั้น มันจึงก่อเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ แบ่งปันบทเรียน และใช้ความโง่กอบกู้เหตุการณ์ก่อนหัวจะโขกกำแพง

          Backman เคยเผชิญอาการทางจิตจากการโดนยิงระหว่างถูกปล้น กลายเป็นคนวิตกจริต ใช่แล้ว มันแปรเปลี่ยนเป็นนวนิยายเรื่องนี้ เขาเคยพูดถึงตัวละครว่า

          “กลุ่มคนธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่กับความกังวล และพยายามจะเยียวยารักษามัน กลุ่มคนที่รู้สึกว่า ‘ฉันแค่พยายามจะผ่านพ้นวันนี้ไปให้ได้’” (อ้างอิงจาก https://cont-reading.com/context/fredrik-backman/)

          นอกจากการสื่อถึงความวิตกกังวลของชีวิตสามัญทั่วไปแล้ว Backman ยังสอดแทรกความโหดร้ายของระบบทุนนิยมที่ถูกปล่อยปละให้แข็งแกร่งจนเกินพอดี ซึ่งมันทำให้มนุษย์หลงลืมว่าเราอ่อนแอเพียงใดเมื่ออยู่ต่อหน้าระบบแห่งความโลภโมโทสัน มันฆ่าคนได้และฝากบาดแผลไว้ในใจ Backman ถ่ายทอดออกมาด้วยสำนวนที่น่าจดจำ การเสียดสีและอารมณ์ขันร้ายกาจ การเล่าเรื่องที่มีกลิ่นอายของนวนิยายสืบสวน ตัดสลับฉากได้อย่างพอเหมาะพอดี และแม้จะเป็นนวนิยายหนาเกือบ 400 หน้า แต่คุณจะรู้สึกว่าเรื่องดำเนินไปอย่างรวดเร็วจนอยากให้มันอ้อยอิ่งมากกว่านี้

          (“อารมณ์ขันคือแนวป้องกันสุดท้ายของจิตวิญาณ” ตัวละครหนึ่งกล่าวไว้)

          ชายบนสะพานเมื่อสิบปีก่อนกำลังตกแน่นอน เราจะแยกแยะระหว่างการตกกับการบินได้อย่างไร ผมเองก็ไม่รู้ ถ้าไม่ใช่การตกจากสะพานตรงตามตัวอักษร เป็นไปได้ว่าเราสามารถตกได้มากกว่าหนึ่งครั้ง บางคนยินดีตกซ้ำแล้วซ้ำเล่า คงเพราะระหว่างร่วงหล่นผู้คนเหล่านั้นได้เรียนรู้วิธีการโบยบิน

          ใครจะรู้ การตกกับการบินอาจเป็นสิ่งเดียวกันมาตลอด

          แค่ต้องเรียนรู้วิธีการตก แล้วก็บินขึ้น ตก แล้วก็บินขึ้น ตก…แล้วก็บินขึ้น เพื่อให้ตกได้ดีขึ้น ยอมรับเถอะว่าเราเป็นคนโง่ได้เสมอแหละเมื่ออยู่ต่อหน้าความรัก

          คำแนะนำเดียวที่ชัดเจนที่สุดที่บอกได้คือ จงอย่าปล้นธนาคาร

RELATED POST

แหล่งชุมนุมความคิดเรื่องพื้นที่สาธารณะเพื่อการเรียนรู้
และห้องสมุดกับการเปลี่ยนแปลงสังคม

                                                                                            

The KOMMON มีการใช้คุกกี้ เพื่อเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ไปวิเคราะห์และปรับปรุงการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

อนุญาตทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานเว็บภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใดๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก